ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (3 ก.พ.) ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ รวมถึงจำนวนคนว่างงานที่ปรับตัวลดลงในรอบสัปดาห์ที่แล้ว และดัชนีภาคบริการที่ขยายตัวอย่างเหนือความคาดหมายในเดือนม.ค. นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังดีดตัวขึ้นเนื่องจากนักลงทุนขานรับรายงานยอดขายที่แข็งแกร่งของบริษัทค้าปลีกในสหรัฐ พร้อมกับจับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนม.ค.ซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยในคืนวันศุกร์
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 20.29 จุด หรือ 0.17% แตะที่ 12,062.26 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 3.07 จุด หรือ 0.24% ปิดที่ 1,307.10 จุด และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 4.32 จุด หรือ 0.16% ปิดที่ 2,753.88 จุด
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ในช่วงเช้านั้นตลาดหุ้นนิวยอร์กอ่อนตัวลงเนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์รุนแรงในอียิปต์ แต่หลังจากนั้นไม่นานตลาดก็ดีดตัวขึ้นทันทีที่กระทรวงแรงงานสหรัฐระบุว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 29 ม.ค.ปรับตัวลดลง 42,000 ราย แตะระดับ 415,000 ราย มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 420,000 ราย ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานของสหรัฐยังคงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวแข็งแกร่งมากขึ้นเมื่อสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ที่ระบุว่า ดัชนีภาคบริการเดือนม.ค.ของสหรัฐ ขยายตัวที่ระดับ 59.4 จุด เพิ่มขึ้นจากระดับ 57.1 จุดของเดือนธ.ค.ปี 2553 สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 57 จุด ซึ่งบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของเศรษฐกิจสหรัฐ
ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าของโรงงานในสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนธ.ค. สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลง 0.5% นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนหลังจากเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ กล่าวสุนทรพจน์ที่สมาคมผู้สื่อข่าวแห่งชาติของสหรัฐว่า เศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องในปีนี้ และอัตราเงินเฟ้อจะยังคงอยู่ในระดับต่ำ แม้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวสูงขึ้นก็ตาม
หุ้นกลุ่มค้าปลีกพุ่งขึ้นแข็งแกร่ง หลังจากมีรายงานว่ายอดขายของร้านค้าปลีกในสหรัฐเพิ่มขึ้น 4.8% ในเดือนม.ค. แต่หุ้นเมิร์คในกลุ่มเวชภัณฑ์ร่วงลง 2.7% หลังจากบริษัทปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการในปี 2554
นักลงทุนจับตาดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนม.ค.ของสหรัฐซึ่งจะมีการเปิดเผยในคืนนี้ตามเวลาประเทศไทย โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 145,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 103,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. และคาดว่าอัตราว่างงานจะอยู่ที่ 9.5% ในเดือนม.ค. เพิ่มขึ้นจาก 9.4% ในเดือนธ.ค