นายจุมพล สายมาลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย)เปิดเผยว่า ในปี 54 บริษัทตั้งเป้าสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร(AUM)เติบโต 20% จากปัจจุบันที่มีสินทรัพย์อยู่ 1.2 แสนล้านบาท และฐานลูกค้าเติบโต 20%
ในปีนี้บริษัทจะเน้นรุกตลาดกองทุนรวมที่ปัจจุบันมีฐานลูกค้าอยู่ 4 หมื่นราย เนื่องจากปีนี้สถาบันคุ้มครองเงินฝากจะลดวงเงินฝากที่จะได้รับการคุ้มครองเหลือ 50 ล้านบาท และปีหน้าจะเหลือ 1 ล้านบาท ซึ่งมองว่าจะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจกองทุนรวม
ขณะที่กองทุนส่วนบุคคลจะเน้นลูกค้าที่มีฐานรายได้สูง จะร่วมมือกับกลุ่มลูกค้าสถาบัน ส่วนกลุ่มลูกค้าทั่วไปจะติดต่อผ่านธนาคารที่เป็นพันธมิตร อย่างเช่น ธ.ทหารไทย ธ.ซิตี้แบงก์ ธ.ฮ่องกง แอนด์ เซี่ยงไฮ้ แบงกิ้ง คอร์ปอเรชั่น (เอชเอสบีซี) ส่วนกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มสถาบัน บริษัทจะเน้นเจาะกลุ่มลูกจ้างของสถาบันนั้นๆ
นายจุมพล กล่าวว่า บลจ.ไอเอ็นจี จะเสนอกองทุนใหม่ให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก ได้แก่ กองทุนเปิดไอเอ็นจีไทย อีควิตี้ ทริกเกอร์ 10% (2) กำหนดจองซื้เอวันที่ 8-15 ก.พ.นี้
กองทุนดังกล่าวมีนโยบายลงทุนในหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยเลือกลงทุนที่มีปัจจัยพื้นฐานและผลประกอบการดี และมีแนวโน้มการเติบโตสูง โดยจะเน้นการใช้เทคนิคเรื่องการเข้าออกตลาดในจังหวะที่เหมาะสม และเมื่อหน่วยมูลค่าการลงทุนสุทธิ (NAV) เพิ่มขึ้นจากราคาเสนอขายครั้งแรกที่ 10 บาท มาอยู่ที่ 11.20 บาทต่อหน่วย ณ วันใดวันหนึ่ง กองทุนจะรับซื้อคืนหน่วยทั้งหมด พร้อมยกเลิกกองทุน
ทั้งนี้ ภายในไตรมาส 1/54 จะเปิดตัวกองทุนใหม่อีก 1 กองทุน โดยเป็นกองทุนที่ลงทุนหุ้นในสหรัฐอเมริกา โดยมองว่า ตลาดหุ้นสหรัฐกลับมาน่าสนใจเชื่อว่าน่าจะเติบโตได้