ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก ขานรับผลประกอบการเอกชน

ตลาดหุ้นยุโรปยังคงปิดเดินหน้าขึ้นเมื่อคืนนี้ (8 ก.พ.) เนื่องจากผลประกอบการที่ดีเกินคาดของอาร์เซลอร์มิตตาล และสวอช กรุ๊ป เอจี สามารถชดเชยปัจจัยลบจากการประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางจีนได้ นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากบีจี กรุ๊ป เปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่ง

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดบวก 39.62 จุด หรือ 0.54% แตะที่ 7,323.24 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 7,272.80 - 7,325.03 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดบวก 17.47 จุด หรือ 0.43% แตะที่ 4,108.27 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 4,078.51 - 4,109.38 จุด

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นอังกฤษปรับตัวขึ้น 40.30 จุด หรือ 0.67% ปิดที่ 6,091.33 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 6,032.88 - 6,091.33 จุด

ดัชนี FTSEurofirst 300 หุ้นกลุ่มบลูชิพในยุโรปอ่อนตัวลง 0.53 จุด หรือ 0.05% ปิดที่ 1,176.28 จุด

ดัชนี Stoxx Europe 600 อ่อนตัวลง 0.1% ปิดที่ 288.56 จุด

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกแม้ตลาดถูกกดดันในระหว่างวันจากการที่ธนาคารกลางจีนประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และดอกเบี้ยเงินฝากอีก 0.25% เมื่อวานนี้ โดยตลาดได้แรงหนุนจากผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัทหลายแห่ง รวมถึงอาร์เซลอร์มิตตาล, สเวดแบงก์ เอจี และสวอช กรุ๊ป เอจี

อาร์เซลอร์มิตตาล ซึ่งบริษัทผลิตเหล็กรายใหญ่สุดของโลก เปิดเผยว่า ยอดขายของบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะ 2.07 หมื่นล้านดอลลาร์ในไตรมาส 4 ปี 2553 จากระดับ 1.743 หมื่นล้านดอลลาร์ในปีก่อนหน้า ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นอาร์เซลอร์มิตตาลพุ่งขึ้น 2%

หุ้นสวอช ซึ่งเป็นผู้ผลิตนาฬิการายใหญ่ของโลกปิดบวก 5.8% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรเพิ่มขึ้น 42% ในปี 2553 ขณะที่หุ้นยูบีเอส เอจี ปิดพุ่ง 4.3% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด

หุ้นบีจี กรุ๊ปพุ่งขึ้น 2.1% หลังจากบีจีเปิดเผยกำไรสุทธิไตรมาส 4 พุ่งขึ้น 12% แตะที่ 905 ล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

หุ้นกลุ่มบริษัทผลิตรถยนต์พุ่งขึ้นแข็งแกร่งสุดในบรรดาหุ้น 19 กลุ่มที่คำนวนในดัชนี Stoxx 600 หลังจากบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ผู้ผลิตรถรายใหญ่สุดของญี่ปุ่น ปรับเพิ่มคาดการณ์ผลกำไรประจำปีงบการเงินปัจจุบันซึ่งจะสิ้นสุดลงในเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้ หลังจากที่ยอดขายในญี่ปุ่น เอเชีย และรัสเซีย ปรับตัวสูงขึ้น ประกอบกับความพยายามในการลดต้นทุนของบริษัท

ทั้งนี้ โตโยต้าคาดการณ์ว่าจะมีกำไรสุทธิ 4.9 แสนล้านเยน จากเดิมที่คาดว่าจะมีเพียง 3.5 แสนล้านเยน และคาดการณ์ว่ากำไรจากการดำเนินงานจะอยู่ที่ 5.5 แสนล้านเยน จากเดิมที่คาดว่าจะอยู่ที่ 3.8 แสนล้านเยน