โบรกเกอร์เห็นพ้อง"ซื้อ"หุ้น บมจ.ไทยคม(THCOM)ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายที่ต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชีที่ราว 13.5 บาท/หุ้นอยู่มาก โดยปีนี้ THCOM จะเป็นบริษัทที่ Turnaround โดยผลประกอบการปีนี้น่าจะพลิกมาเป็นกำไรได้ถึง 22-66 ล้านบาท จากปี 53 ที่คาดว่าจะยังขาดทุนอยู่ พร้อมคาดว่าปีนี้น่าจะเริ่มจ่ายเงินปันผลได้เป็นครั้งแรกในรอบ 7 ปีนับจากปี 47
ทั้งนี้ หลัก ๆ มาจากไอพีสตาร์จากอินเดียที่เริ่มมีการรับรู้รายได้แล้วในไตรมาส 4/53 และจะรับรู้ฯเต็มที่ในปีนี้ ช่วยทำให้มาร์จิ้นของ THCOM ดีขึ้นด้วย บวกกับคาดว่าการให้บริการไอพีสตาร์ในตลาดอื่น ๆ เช่น ออสเตรเลีย และญี่ปุ่น จะมีปริมาณเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง น่าจะช่วยผลักดันให้ไอพีสตาร์ถึงจุดคุ้มทุนที่ 20% ได้ภายในปีนี้
พร้อมทั้งเกิดกระแสข่าวทางรัฐบาลสนใจจะซื้อสัมปทานดาวเทียมคืนจากบมจ.ชินคอร์ปอเรชั่น(SHIN)หลังเห็น THCOM ปีนี้จะเริ่มกลับมา Turnaround แตคงต้องรอดูต่อไปว่าทางรัฐบาลต้องการจะซื้อในส่วนใดหรือจะซื้อคืนเฉพาะส่วนดาวเทียม
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย(บาท/หุ้น) บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย) ซื้อ 8.70 บล.เกียรตินาคิน ซื้อ 7.80 บล.บัวหลวง ซื้อ 9.00
แหล่งข่าวจากวงการโบรกเกอร์ เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า หุ้น THCOM ปรับตัวขึ้นวันนี้ คาดว่าจะเป็นการเข้ามาเล่นเก็งกำไรของนักลงทุน ภายหลังจากที่มีกระแสข่าวออกมาว่าทางรัฐบาลสนใจจะซื้อคืนจากชินคอร์ปฯ ซึ่งที่จริงก็เป็นข่าวที่เคยพูดกันมาครั้งหนึ่งแล้ว แต่ก็เงียบ ๆ ไป แต่ตอนนี้เริ่มกลับมาพูดใหม่ เพราะคงเห็นว่า THCOM ปีนี้จะเริ่มกลับมา Turnaround จึงสนใจที่จะซื้อคืนธุรกิจ
แต่ทั้งนี้ก็ต้องรอดูต่อไปว่าทางรัฐบาลต้องการจะซื้ออะไร จะซื้อทั้งบริษัท หรือจะซื้อคืนเฉพาะส่วนธุรกิจดาวเทียม โดยหากรัฐบาลได้ซื้อคืนกลับไปก็จะทำให้สามารถแก้ไขปัญหาได้ในเรื่องของสัมปทาน โดยการยกเลิกสัมปทานที่รัฐฯให้ไว้กับ THCOM แล้วรัฐฯก็นำกลับมาบริหารเอง
"ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเป็นอย่างไร แต่ตอนนี้มีข่าวว่ารัฐฯอยากได้คืน ถ้าไม่ขายให้ก็อาจจะมีการขุดคุ้ยเรื่องสัมปทานขึ้นมาคุยกันใหม่"แหล่งข่าว กล่าว
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เกียรตินาคิน แนะนำ"ซื้อ"หุ้น THCOM เนื่องจากมองว่าปี 54 ผลประกอบการจะมีการ Turnaround โดยน่าจะพลิกมาเป็นกำไรได้ถึง 22 ล้านบาท จากปี 53 ที่คาดว่าจะยังขาดทุนอยู่ พร้อมคาดว่า THCOM มีโอกาสที่จะจ่ายเงินปันผลสำหรับปี 54 ประมาณ 0.20-0.25 บาท/หุ้น
หลัก ๆ มาจากการให้บริการดาวเทียมไอพีสตาร์ในอินเดีย ที่เริ่มมีการรับรู้รายได้มาตั้งแต่ไตรมาส 4/53 และจะรับรู้รายได้เต็มที่ในปีนี้ เป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยทำให้มาร์จินของ THCOM ดีขึ้นได้ด้วย นอกจากนี้ มองว่าในช่วงครึ่งหลังปีนี้(H2/54)ถ้า THCOM ได้รับอนุมัติจากรัฐบาลจีนในเรื่องการให้บริการไอพีสตาร์อีกก็จะเป็นข่าวดีเพิ่มเข้ามา
อย่างไรก็ดี THCOM ยังมีความเสี่ยงจากกรณีสัมปทานดาวเทียมที่อาจจะต้องจ่ายค่าปรับกรณีผลพวงจากคดียึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แต่ก็ไม่ได้น่ากลัวเท่าไรนักเมื่อเทียบกับธุรกิจโทรศัพท์มือถือ เพราะขณะนี้ก็ยังไม่ชัดเจนในแง่มูลค่าความเสียหาย แต่หากต้องจ่ายจริงก็ประเมินว่าจะจ่ายประมาณ 200 ล้านบาท ซึ่งจะกระทบมูลค่าของหุ้นเพียง 0.18 บาท/หุ้น เท่านั้นถือว่าไม่ได้มาก
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.บัวหลวง แนะ"ซื้อ"หุ้น THCOM เนื่องจากมองว่าปีนี้ THCOM จะ Turnaround โดยคาดว่าจะพลิกเป็นกำไร 35 ล้านบาท โดยหลัก ๆ จากการให้บริการไอพีสตาร์ในอินเดีย ซึ่งปีนี้คงจะมีการให้บริการที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งในส่วนของธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ในกัมพูชาก็มีรายได้ที่ดีขึ้นด้วย
นอกจากนี้ ราคาหุ้นในปัจจุบันถือว่าอยู่ในระดับที่ต่ำมากแล้ว โดยยังอยู่ในระดับที่ต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี(Bookvalue)
ขณะที่บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย)ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"ซื้อ"หุ้น THCOM มองเป็นหุ้น Turnaround ในปีนี้ เนื่องจากราคาหุ้นปัจจุบันมีการซื้อขายต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชีที่ราว 13.5 บาทอยู่มาก อีกทั้งยังมี upside ถึง 58% เมื่อเทียบกับราคาเหมาะสมที่ประเมินด้วยวิธี DCF ซึ่งอยู่ที่ 8.70 บาท ประกอบกับ คาดหมายว่าในปีนี้บริษัทจะพลิกฟื้นเป็นมีกำไรและจากกำไรสะสมที่มีอยู่ในระดับสูงกว่า 4 พันล้านบาท จึงคาดว่าน่าจะเริ่มจ่ายเงินปันผลได้เป็นครั้งแรกในรอบ 7 ปี นับจากปี 47
สำหรับอินเดียยังเป็นตลาดใหม่ที่บริษัทจะขายบริการไอพีสตาร์ในลักษณะขายส่ง ซึ่งน่าจะช่วยเร่งการเติบโตให้แก่บริษัทได้เร็วกว่าตลาดเดิมที่ส่วนใหญ่จะเป็นการขายแก่รายย่อย ประกอบกับ สัญญาที่ทำกับลูกค้าในอินเดียได้ระบุการใช้บริการขั้นต่ำไว้ที่ 2,000 เมกะบิตภายในสิ้นปี 54 หรือคิดเป็นสัดส่วน 5% ของการให้บริการไอพีสตาร์
เมื่อรวมกับการให้บริการเดิมที่มีอยู่แล้วเมื่อสิ้นปี 53 ราว 14% ของความสามารถในการให้บริการ บวกกับคาดว่าการให้บริการไอพีสตาร์ในตลาดอื่นๆเช่น ออสเตรเลีย และญี่ปุ่น จะมีปริมาณเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง น่าจะช่วยผลักดันให้ไอพีสตาร์ถึงจุดคุ้มทุนที่ 20% ได้ภายในปีนี้ และส่งผลให้โดยรวมแล้วในปี 54 จะพลิกเป็นมีกำไรปกติได้ 66 ล้านบาท ดีขึ้นเมื่อเทียบกับปี 53 ที่คาดว่าจะขาดทุนปกติราว 711 ล้านบาท และคาดว่าบริษัทจะมีกำไรเพิ่มเป็น 334 ล้านบาทในปี 55 ตามปริมาณการให้บริการไอพีสตาร์ที่เพิ่มขึ้น