ตลาดหุ้นไทยภาคบ่ายร่วงไปกว่า 10 จุดด้วยมูลค่าการซื้อขายเบาบาง ซึ่งเป็นไปตามทิศทางตลาดหุ้นในเอเชียส่วนใหญ่ที่ปรับตัวลดลงเนื่องจากความกังวลปัญหาเงินเฟ้อในภูมิภาคจะเร่งตัวขึ้น และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของจีน ขณะที่ปัจจัยในประเทศยังเป็นเรื่องที่ต้องติดตามต่อไป
เมื่อเวลา 14.33 น.ดัชนี SET มาอยู่ที่ 973.05 จุด ลดลง 10.48 จุด(-1.07%)
นายพงศ์ภัทร สิริพิพัฒน์ ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เคจีไอ กล่าวว่า การที่ดัชนีหุ้นไทยปรับลดลงกว่า 10 จุดนั้นเป็นแรงขายตามตลาดหุ้นในภูมิภาคที่ปรับลดลงเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากความกังวลในเรื่องปัญหาเงินเฟ้อมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากเดิม รวมทั้งการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางประเทศจีน 0.25% เมื่อวานนี้ ส่งผลให้เกิดการปรับพอร์ตลงทุน โดยนักลงทุนบางกลุ่มโยกกลับไปลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรป หลังสถานการณ์เศรษฐกิจมีการฟื้นตัวที่ดีขึ้น
อย่างไรก็ตาม สำหรับปัจจัยภายในประเทศ ประเด็นเรื่องการเมืองยังมีเรื่องที่ต้องติดตาม โดยเฉพาะการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระที่ 3 วันที่ 11 ก.พ.นี้
ด้านนายสมชาย เอนกทวีผล ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ฟินันเซียไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเปิดตลาดช่วงบ่ายมาปรับตัวลดลงไปกว่า 10 จุด มองว่าเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นภูมิภาคที่ส่วนใหญ่ปรับตัวลดลงกว่า 1% โดยถูกกดดันจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางจีนเมื่อวานนี้ ทำให้มีความกังวลว่าเศรษฐกิจของจีนจะชะลอตัวลง ด้านปัจจัยภายในประเทศมองว่ายังไม่มีอะไรน่ากังวลและไม่มีประเด็นอะไรใหม่ พร้อมให้แนวรับ 970 และ 960 จุด แนวต้าน 980-983 จุด