บมจ.แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ (LPN) เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทมียอดขายรอโอน (backlog) ประมาณ 1.6 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้เป็นรายได้ในปีนี้ประมาณ 1.2 หมื่นล้านบาท ส่วนที่เหลืออีก 4 พันล้านบาทจะรับรู้รายได้ในปีหน้า โดยบริษัทยังคงการพัฒนาโครงการคอนโดมีเนียม เนื่องจากมองว่ายังคงความต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง
นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ กรรมการผู้จัดการ LPN กล่าวว่า บริษัทมีแผนเปิดโครงการใหม่ 10 โครงการ มูลค่า 1.6 หมื่นล้านบาท ในช่วงต้นเดือน ก.พ.เปิดตัว 2 โครงการ คือ ลุมพินี คอนโดทาวน์ นิด้า-เสรีไทย มูลค่า 452 ล้านบาท พื้นที่ 22.5 ตร.ม.ราคา 6.99-8.00 แสนบาท/ยูนิต และโครงการ ลุมพินี วิลล์ ลาซาล-แบริ่ง มูลค่า 1 พันล้านบาท โดยเปิด Soft Launch เมื่อ 2 ก.พ.ที่ผ่านมา
โครงการลุมพินี คอนโดทาวน์ นิด้า-เสรีไทย เป็นโครงการแรกที่เปิดขาย จากทั้งหมด 600 ยูนิต มียอดจอง 63% แล้ว
"ที่เปิดแค่ซอฟท์เซลแล้วขายหมดทั้ง 377 ยูนิตแล้วขายหมด ทำให้เห็นว่าดีมานด์ยังมีอยู่ในตลาดคอนโดทาวน์และวิลล์ ที่เหลือจะเปิดขายในวันที่ 12 ก.พ.นี้"นายโอภาส กล่าว
ส่วนโครงการ ลุมพินี วิลล์ ลาซาล-แบริ่ง มียอดจองแล้ว 30% จากทั้งหมด 1,028 ยูนิต และเปิดตัวเพียง 50% ของยูนิตทั้งหมด ซึ่งจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างในเดือน มี.ค.54 และแล้วเสร็จเดือน ก.พ.ปีหน้า
นายโอภาส กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทจะบุกตลาดคอนโดมิเนียมขนาด 22 ตร.ม.มากขึ้น โดยมีแผนจะเปิดโครงการคอนโดทาวน์และวิลล์รวมกัน 5-6 โครงการ ปัจจุบันซื้อที่ดินไว้แล้ว 3 แปลง ได้แก่ ที่ถนนเสรีไทย ซอยลาซาล และกำลังจะโอนอีก 1 แปลงในช่วงต้นเดือน เม.ย.นี้ ซึ่งอยู่ใกล้แนวรถไฟฟ้า นอกจากนั้น ยังอยู่ระหว่างเจรจาต่อรองราคาอีก 4 แปลง
ด้านฐานะการเงินของบริษัทในขณะนี้ยังมีความแข็งแกร่งและเพียงพอในการลงทุนพัฒนาโครงการใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยยังไม่จำเป็นต้องออกหุ้นกู้ในเร็ว ๆ นี้ แต่การศึกษาแผนเตรียมไว้ก็เพื่อเป็นทางเลือกหนึ่งในการลงทุนเท่านั้น โดยจะพิจารณาความจำเป็นในอนาคต