บลจ.ธนชาต มองหุ้นไทยช่วงสั้นยืน 900-1,000 จุด คาด H2 ต่างชาติกลับมา

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday February 10, 2011 17:25 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายตระกูลจิตร จิตตไสยะพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บลจ.ธนชาต กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ไทยในช่วงนี้ที่มีเงินทุนไหลออกเป็นปกติของการลงทุนที่จำเป็นต้องมีการโยกย้ายเงินทุน ซึ่งนักลงทุนต่างชาติจะย้ายเงินไปลงทุนในประเทศตัวเองที่มีความปลอดภัยและคุ้นเคยกว่าทั้งในสหรัฐและยุโรป หลังจากเห็นแนวโน้มการฟื้นตัวชัดเจนขึ้น

แต่เชื่อว่าตลาดหุ้นไทยยังยืนในระดับ 900-1000 จุดได้ หากไม่มีความขัดแย้งทางการเมืองหรือปัญหาลุกลามระหว่างเขมรกับไทย ซึ่งช่วงนี้แนะนำให้นักลงทุนเก็บสะสมหุ้นที่เกี่ยวกับการบริโภคในประเทศ และหุ้นที่ได้รับผลดีจากภาวะเงินเฟ้อ โดยหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี จ่ายปันผลสูง หากราคาปรับลดลงมาให้ทยอยเข้าลงทุน โดยประเมินว่าในช่วงครึ่งปีหลังปีนี้จะมีเงินทุนต่างชาติกลับเข้ามาลงทุนในประเทศไทยอีกครั้ง

"ตอนนี้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงตามตลาดหุ้นอเชียเพราะเงินทุนไหลออกต่อเนื่องเพราะยังมีความกังวลเรื่องภาวะดอกเบี้ยและเงินเฟ้อที่ยังคงปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องและยังไม่มีความชัดเจนในแง่ของนโยบายภาครัฐประเทศต่างๆจึงย้ายเงินออกไปก่อน แต่พื้นฐานประเทศไทยยังดีเชื่อว่าครึ่งปีหลังเงินทุนต่างชาติจะกลับมา"นายตระกูลจิตร กล่าว

ด้านนางสาวทิพวัลย์ เอี่ยมโอภาส ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บลจ.ธนชาต กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้าสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร(AUM) ในปีนี้จะเติบโต 20% จากปี 53 ที่มี AUM รวม 9 หมื่นล้านบาท โดยปีนี้เน้นออกกองทุนความเสี่ยงต่ำและออกกองทุนทดแทนกองทุนเดิมที่จะครบอายุ

บริษัทจะเน้นออกกองทุนที่ลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐและกองทุนผสมที่ลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐและหุ้นกู้เอกชน ซึ่งเป็นการลงทุนในตราสารหนี้ในประเทศทั้งหมด รูปแบบการลงทุนระยะสั้นอายุ 3-6 เดือน และกองทุนประเภทนี้จะทดแทนการฝากเงินกับธนาคารและจะสอดคล้องกับสถาบันประกันเงินฝากที่จะปรับลดวงเงินการคุ้มครองเงินฝากเริ่มมีผลในเดือนส.ค.จะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงในรูปแบบการออมของนักลงทุนมากขึ้น รวมทั้งบริษัทจะได้ฐานลูกค้าใหม่เพิ่มเติมจากการควบรวมกับธนาคารนครหลวงไทย

ทั้งนี้ สัดส่วนธุรกิจกองทุนของบลจ.ธนชาต แบ่งเป็นกองทุนรวม 84.5% กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ 5.4% และกองทุนส่วนบุคคล 9.2%

นอกจากนี้บริษัทจะเน้นการออกกกองทุนทั้งในและต่างประเทศเพิ่มมากขึ้นเพราะมองว่าทิศทางตลาดหุ้นยังคงมีทิศทางที่ดีขึ้นและมองว่าการลงทุนที่หลากหลายจะเป็นการกระจายความเสี่ยงในการลงทุน สำหรับการออกกองทุนอสังหาริมทรัพย์ยังคงอยู่ระหว่างการศึกษาสินทรัพย์ที่มีคุณภาพแต่คงยังไม่เกิดขึ้นในปีนี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ