ตลาดหุ้นยุโรปรับตัวผันผวนเมื่อคืนนี้ (10 ก.พ.) โดยตลาดหุ้นอังกฤษปิดร่วงลงเนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัทเอกชน ขณะที่ตลาดหุ้นเยอรมนีและตลาดหุ้นฝรั่งเศสอ่อนแรงลงในระหว่างวัน อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลที่ว่า ตัวเลขเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นทั่วโลกอาจส่งผลให้ต้นทุนการกู้ยืมปรับตัวสูงขึ้นด้วย อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดตลาดดีดตัวขึ้น เพราะได้แรงหนุนจากข่าวการเจรจาควบรวมกิจการระหว่าง Deutsche Boerse AG ซึ่งเป็นผู้บริหารตลาดหุ้นเยอรมนี และ NYSE Euronext ซึ่งเป็นผู้บริหารตลาดหุ้นนิวยอร์ก
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นอังกฤษปิดลบ 32.28 จุด หรือ 0.53% แตะที่ 6,020.01 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,986.48-6,052.29 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดบวก 19.38 จุด หรือ 0.26% แตะที่ 7,340.28 จุดหลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 7,269.53-7,340.87 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดบวก 4.40 จุด หรือ 0.11% แตะที่ 4,095.14 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 4,041.63-4,095.14 จุด
ดัชนี Stoxx Europe 600 ซึ่งเป็นดัชนีหุ้นกลุ่มทรัพยากรพื้นฐานในยุโรป ร่วงลง 0.2% แตะที่ 286.78 จุด
ดัชนี FTSEurofirst 300 ของหุ้นกลุ่มบลูชิพทั่วยุโรปปิดอ่อนลง 2.12 จุด หรือ 0.18% แตะที่ 1,169.31 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,159.85-1,171.61 จุด
หุ้นสายการบินแอร์ ฟรานซ์-เคแอลเอ็ม ปิดร่วงลง 7.7% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่อ่อนแอ และได้ปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการตลอดปี 2554 ขณะที่หุ้นดอยช์ ลุฟฮันซา ซึ่งเป็นบริษัทคู่แข่ง ปิดร่วงลง 2.5% ส่วนหุ้นคอนโซลิเดทเต็ด แอร์ไลน์ส กรุ๊ป ซึ่งเป็นผู้บริหารสายการบินบริติช แอร์ไลน์ และไอเบเรีย แอร์ไลน์ ปิดร่วง 3.3%
หุ้นเครดิตสวิสปิดร่วงกว่า 5% หลังจากธาคารเปิดเผยผลประกอบการที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ และหุ้นไดอาจีโอปิดร่วงลง 4.6% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการรอบครึ่งปที่ต่ำเกินคาด
หุ้น Deutsche Boerse AG ซึ่งเป็นบริษัทบริหารตลาดหุ้นเยอรมนี ปิดพุ่ง 4.6% หลังจากมีรายงานว่าบริษัท NYSE Euronext ซึ่งเป็นผู้บริหารตลาดหุ้นนิวยอร์ก กำลังเจรจาเรื่องการควบรวมกิจการกับ Deutsche Boerse ซึ่งคาดว่าอาจจะนำไปสู่การจัดตั้งบริษัทบริหารตลาดหุ้นที่ใหญ่ที่สุดในโลก
แถลงการณ์ของ NYSE Euronext ระบุว่า ทั้งสองบริษัทจะรวมธุรกิจในส่วนของธุรกรรมการซื้อขายหุ้นทุกประเภท ภายใต้กฎหมายฉบับใหม่ หากข้อตกลงดังกล่าวเสร็จสมบูรณ์ กลุ่มผู้ถือหุ้นของ Deutsche Boerse ก็จะถือหุ้นประมาณ 59-60% และกลุ่มผู้ถือหุ้นของ NYSE Euronext จะถือหุ้นประมาณ 40-41% ของจำนวนหุ้นในบริษัทร่วมทุน ซึ่งจะบริหารตลาดหลักทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เมื่อพิจารณาจากรายได้และกำไร