MCOT คาดปี 54 รายได้โตอย่างต่ำ 10%,งบลงทุนปีนี้อาจสูงถึง 1 พันลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday February 11, 2011 16:17 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายธนวัฒน์ วันสม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.อสมท (MCOT) เปิดเผยว่า ในปี 53 บริษัทสามารถทำได้รายได้ทะลุเป้าหมายที่ 5,000 ล้านบาท และในปี 54 คาดว่ารายได้จะเติบโตอย่างน้อย 10% โดยรายได้หลักยังมาจากธุรกิจทีวี วิทยุ และรายได้จากค่าสัมปทาน แต่มีรายได้ใหม่เข้ามาเพิ่ม เช่น ธุรกิจเคเบิลทีวี ซึ่งเป็นรายได้ในหลักร้อยล้านบาท จากป้จจุบันมีเคเบิลทีวีที่ผลิตเองและร่วมผลิต จำนวน 12 ช่อง และมีเป้าหมายเพิ่มเป็น 20 ช่องในปีนี้ เบื้องต้นคาดว่าจะผลิตเอง 2-3 ช่อง และร่วมมือกับพันธมิตร 4-5 ช่อง

MCOT มองว่าธุรกิจเคเบิลทีวี มีการเติบโตสูง และมีเม็ดเงินโฆษณาไหลเข้าค่อนข้างมาก แต่ยังต้องใช้เวลาอย่างน้อย 3 ปีกว่าจะเห็นความชัดเจนในแง่รายได้ โดยมีเป้าหมายที่เพิ่มสัดส่วนรายได้จากสื่อใหม่และเคเบิลทีวีเป็นประมาณ 10% จากปีนี้ที่คาดว่าจะมีสัดส่วนรายได้ในระดับ 1-2%

รายได้ที่เติบโตขึ้นในปีนี้ ส่วนหนึ่งยังมาจากการปรับขึ้นค่าโฆษณาประมาณ 7-10% ซึ่งทยอยทำมาตั้งแต่ต้นเดือน ม.ค.54 และมีการปรับฐานราคาค่าโฆษณาในรายการใหม่ โดยจะมีการแถลงผังรายการใหม่ภายใต้คอนเส็ปต์"New Nine Together"ในวันที่ 15 ก.พ.54 ซึ่งปัจจุบันอัตราการซื้อโฆษณาในเวลา non-prime time เกือบเต็ม 100% และเวลา prime time มีการจองโฆษณาล้น ถือว่าเป็นการตอบรับที่ดีจากเอเจนซี่โฆษณา และหลังการปรับผังรายได้จะมีการพิจารณาอัตราการซื้อโฆษณาอีกครั้ง เพื่อพิจารณาว่าจะมีการปรับขึ้นโฆษณาอีกหรือไม่ในช่วงปลายปี

นายธนวัฒน์ กล่าวว่า โดยปกติ MCOT จะใช้งบลงทุน 500 ล้านบาทในการปรับปรุงคุณภาพอุปกรณ์และซื้ออุปกรณ์ใหม่ แต่ปีนี้อยู่ระหว่างการศึกษาการลงทุนเพิ่ม จึงคาดว่าปีนี้อาจจะมีการลงทุนสูงถึง 1,000 ล้านบาท เนื่องจากต้องลงทุนด้านเคเบิลทีวี และการพัฒนาที่ดิน 50 ไร่ ซึ่งเป็นสินทรัพย์เดิมบน ถ.รัชดาภิเษก

ขณะนี้ MCOT อยู่ระหว่างการพิจารณาว่าแผนพัฒนาที่ดินดังกล่าว อาจจะสร้างเป็นรูปแบบเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ คอมเพล็กซ์ และศูนย์กลางการออกอากาศ ที่มีทั้งสตูดิโอและโปรดักชั่นครบวงจร รวมถึงการหาพันธมิตรที่สนใจเข้าร่วมลงทุน เนื่องจากเป็นที่ดินใจกลางเมือง ซึ่งบริษัทสนใจที่จะพัฒนาเป็นทั้งศูนย์การค้าและสำนักงาน คาดว่าจะสรุปแผนการลงทุนร่วมกับพันธมิตรได้ภายในกลางปีนี้ และจะเห็นการลงทุนเฟสแรกในปลายปีนี้

"โครงการนี้เป็นโครงการขนาดใหญ่ ต้องใช้เงินลงทุนหลักพันล้านบาท และต้องใช้เวลาพัฒนาไม่น้อยกว่า 5 ปี โดยเฟสแรกน่าจะเห็นได้ในปลายปีนี้ ส่วนแผนคาดว่าจะชัดเจนภายในกลางปี" นายธนวัฒน์ กล่าว

สำหรับเงินลงทุนเพื่อใช้ลงทุนดังกล่าวไม่ได้มีปัญหา เนื่องจากบริษัทมีกระแสเงินสดเกือบ 4,000 ล้านบาท ซึ่งการลงทุนระดับ 100-1,000 ล้านบาทสามารถดำเนินการได้ทันที และไม่กระทบต่อฐานะการเงิน

อย่างไรก็ตาม บริษัทไม่มีความกังวลหากมีการจัดตั้งคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ( กสทช.) เพราะยังเชื่อมั่นในการบริหารงานและการจัดการคลื่นความถี่ โดยเฉพาะคลื่นวิทยุที่มีอยู่ 62 คลื่น บริษัทยังคงความเป็นเจ้าของสัมปทานอยู่ ซึ่งหากมีกฎหมาย กสทช.บริษัทยังคงเชื่อว่าจะได้อำนาจในการบริหารคลื่นความถี่ตามเดิม

แต่ยอมรับว่าหากมี กสทช.จะทำให้การแข่งขันในธุรกิจสื่อรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะทีวี และเม็ดเงินโฆษณาจะไหลเข้าสู่ธุรกิจเคเบิลทีวีทดแทนฟรีทีวี

ด้านนายเขมทัต พลเดช ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สำนักการตลาด MCOT กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทมีการปรับเพิ่มค่าโฆษณาตั้งแต่เดือน ม.ค.54 ประมาณ 7-8% และมีการปรับฐานราคาใหม่ในบางรายการถึง 20% เนื่องจากฐานราคาค่าโฆษณาของช่อง 9 ถือว่าต่ำกว่าคู่แข่งค่อนข้างมาก และในช่อง 5 ซึ่งอยู่ในอันดับใกล้เคียงกันมีการปรับราคาค่าโฆษณาถึง 100% เนื่องจากยังมีความต้องการลงโฆษณาผ่านฟรีทีวีจำนวนมาก

อย่างไรก็ตามใน 3 ปีข้างหน้า ธุรกิจฟรีทีวีจะถูกธุรกิจเคเบิ้ลทีวีแย่งชิงเม็ดเงินโฆษณา แต่เชื่อว่ารายได้ของบริษัทในธุรกิจฟรีทีวียังไม่หายไป เพราะมองว่าเป็นการเพิ่มทางเลือกให้เอเจนซี่ที่ปัจจุบันมีทางเลือกค่อนข้างน้อย

ส่วนการปรับผังรายการใหม่ส่วนใหญ่เป็นการปรับรูปแบบรายการให้ทันสมัย น่าสนใจแต่ไม่ได้มีการผู้ผลิตรายการหรือเพิ่มผู้ผลิตรายการอย่างมีนัยสำคัญ โดยรายหลักทั้งเวิร์คพอยท์ แอ็คแซ็ค ยังคงอยู่ แต่จะมีเรียลิตี้ใหม่ที่สร้างความน่าสนใจมากขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ