KTAM ตั้งเป้า AUM ปี 54 โต 20% ครองแชมป์มาร์เก็ตแชร์กองทุนอสังหาฯ

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday February 14, 2011 12:21 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บลจ.กรุงไทย (KTAM) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร(AUM) ในปี 54 เติบโต 20% จาก 320,000 ล้านบาทในปีก่อน

อนึ่ง AUM ณ สิ้นปี 53 เติบโต 40% จากปี 52 หรือคิดเป็นเม็ดเงินราว 1 แสนล้านบาท เป็นการเติบโตสูงสุดในกลุ่มอุตสาหกรรมกองทุนรวม

AUM ในปีนี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีก 65,000 ล้านบาท แบ่งเป็นจากสินทรัพย์จากกองทุนรวมเพิ่มขึ้นประมาณ 20,000 ล้านบาท กองทุนอสังหาฯ ประมาณ 15,000 ล้านบาท กองทุนส่วนบุคคลประมาณ 10,000 ล้านบาท กองทุนสำรองเลี้ยงชีพประมาณ 15,000 ล้านบาท

บริษัทยังมีเป้าหมายจะครองแชมป์การบริหารกองทุนอสังหาริมทรัพย์(พร้อพเพอร์ตี้ฟันด์)ทุกขนาด ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีกองทุนอสังหาฯภายใต้การบริหารมูลค่า 93,000 ล้านบาท คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด(มาร์เก็ตแชร์) 38% เป็นอันดับ 1 ในตลาดกองทุนรวม โดยปีนี้จะออกกองทุนอสังหาฯ ที่มีความหลากหลายมากขึ้นเพื่อให้นักลงทุนมีทางเลือกในการลงทุนเพิ่มขึ้น

ในช่วงไตรมาส 1/54 บริษัทคาดว่าจะออกกองทุนอสังหาริมทรัพย์ที่มีสินทรัพย์เป็นห้างสรรพสินค้าพันธ์ทิพย์งามวงศ์วาน ซึ่งจะเสนอขายหน่วยลงทุนมูลค่า 2,500 ล้านบาท โดยยื่นขออนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)แล้ว คาดว่าจะอยู่ระหว่างการพิจารณา

นอกจากนั้น บริษัทจะมีการออกกองทุนประเภท"ทริกเกอร์ฟันด์"ในตลาดต่างประเทศมากกว่าในประเทศ เพราะเชื่อว่าการลงทุนในต่างประเทศน่าจะมีอัพไซด์ที่ดีกว่า และบริษัทยังร่วมกับซิตี้แบงก์เปิดขายกองทุนอย่างต่อเนื่องซึ่งที่ผ่านมาให้ผลตอบแทนที่ดีมาก ในอีก 2 เดือนข้างหน้าก็เตรียมที่จะออกอีก 1 กองทุนใน sector ใหม่

สำหรับกองทุนเปิดดับเบิลยูไอเอสอี เคแทม ซีเอสไอ 300 ไชน่า (CHINA) กองแรกที่เปิดตัวในปีนี้ได้รับการตอบรับที่ดีมาก เพราะเศรษฐกิจของจีนยังมีอัตราการเติบโตที่ดีโดยปี 53 โตสูงสุด 10.3% แม้จะมีมาตรการควบคุมปัญหาเงินเฟ้อ แต่คาดว่ากลางปีนี้จีนจะดูแลเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมได้ และหากมองในระยะยาวตลาดหุ้นจีนน่าสนใจ

ทั้งนี้ อัตราการซื้อขายกองทุน CHINA สูงเป็นอันดับที่ 2 ของกองทุน ETF ที่เทรดในตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งทาง KTAM ยังคงมีแผนที่จะออกกองทุน ETF เพิ่มอย่างต่อเนื่อง อยู่ระหว่างดูจังหวะที่เหมาะสม

ส่วนความคืบหน้ากองทุนสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน(Infrastructure Fund) ยังไม่คืบหน้ามาก เพราะจากการหารือต้องเข้าใจในองค์กรรัฐวิสาหกิจที่จะเป็นผู้ออกกองทุนด้วย แต่เท่าที่มีการพูดคุยในเบื้องต้นแล้ว ได้แก่ การประปานครหลวง การไฟฟ้าผลิตแห่งประเทศไทย ส่วนภาคเอกชนมี บมจ.ปตท.(PTT) และ บมจ.ปตท.สผ.(PTTEP)

"มองว่าถ้าเป็นเอกชนจะคล่องตัวมากกว่าเราคงกลับไปคุยกับเอกชนว่าต้องการมากน้อยแค่ไหน ส่วนรัฐวิสาหกิจนั้นคงต้องใช้เวลา ไม่ง่าย"นายสมชัย กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ