นางสาวโศภชา ดำรงปิยวุฒิ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง(GUNKUL)เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 54 เติบโตไม่ต่ำกว่า 15% จากปีก่อน เนื่องจากทยอยรับรู้รายได้จากงานในมือทั้งในส่วนของภาครัฐบาลและภาคเอกชน รวมถึงงานจากต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีงานในมือที่จะทยอยรับรู้เป็นรายได้ในปีนี้ประมาณ 1,000 ล้านบาท และอยู่ระหว่างการเจรจา และรอการเซ็นสัญญาอีกประมาณ 1,000 ล้านบาท
หลังจากที่โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์เฟสแรกขนาด 3 เมกะวัตต์ ได้เปิดดำเนินการสามารถผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าได้แล้ว ในส่วนของการเติบโตของธุรกิจเดิม คือ การนำเข้าและจัดจำหน่ายอุปกรณ์สำหรับระบบไฟฟ้าและอุปกรณ์ อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องก็มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ทำให้เชื่อว่าผลการดำเนินของบริษัทจะเติบโตอย่างโดดเด่นในปีนี้ เห็นได้จากปัจจุบันบริษัทได้ทยอยเซ็นสัญญารับงานอย่างต่อเนื่อง และเตรียมยื่นประมูลอีกจำนวนมาก
ขณะที่ความ คืบหน้าของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์เฟส 2 ขนาด 4.4 เมกะวัตต์ ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างปรับปรุงพื้นที่ ซึ่งคาดว่าในเร็วๆ นี้น่าจะเริ่มดำเนินการตามขั้นตอนได้ ส่วนเฟสต่อๆ ไปบริษัทจะเร่งดำเนินการให้เป็นไปตามแผนที่ได้วางไว้ ซึ่งคาดว่าน่าจะดำเนินการแล้วเสร็จตามแผนที่วางไว้
ส่วนผลงานปี 53 กำไรเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 123.17 ล้านบาท เทียบจากงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิเท่ากับ 53.66 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 129.53% หลังรายได้ภายในประเทศและต่างประเทศขยายตัวต่อเนื่อง
ทั้งนี้ รายได้รวมสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2553 เท่ากับ 1,300.78 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 427.78 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 49 เนื่องจากรายได้จากการขายต่างประเทศ เท่ากับ 606.48 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน จำนวน 442.61 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 270.10 ขณะที่อัตราส่วนกำไรขั้นต้นเท่ากับร้อยละ 28.45 เปรียบเทียบกับปีก่อนเท่ากับร้อยละ 25.45 เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.78
ด้านค่าใช้จ่ายในการขาย ค่าใช้จ่ายในการบริหาร และค่าตอบแทนผู้บริหาร รวมเท่ากับ 189.03 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46.65 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้นร้อยละ 32.76 ตามรายได้รวมที่เพิ่มขึ้นตามปกติของธุรกิจ ส่วนต้นทุนทางการเงิน เท่ากับ 6.65 ล้านบาท เปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนจำนวน 5.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.12 ล้านบาท