นายชำนิ จันทร์ฉาย ประธานกรรมการ บมจ.แมกซ์ เมทัล คอร์ปอเรชั่น(MAX)เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า การเจรจาซื้อกิจการโรงงานเหล็กแห่งหนึ่ง ที่ตั้งอยู่ใน อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ น่าจะได้ข้อสรุปภายในเดือน ก.พ.นี้ โดยคาดว่ามูลค่าไม่เกิน 400 ล้านบาท โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับธนาคาร 2 แห่งในฐานะเจ้าของทรัพย์ดังกล่าว เกี่ยวกับระยะเวลาการชำระเงินและเงื่อนไขการส่งมอบสินทรัพย์ดังกล่าว
สำหรับโรงงานดังกล่าวสามารถเดินเครื่องผลิตได้ทันที ซึ่งหากการเจรจาบรรลุข้อตกลงตามที่กำหนดไว้ ก็จะทำให้บริษัทสามารถรับรู้ผลผลิตของโรงงานใหม่เข้ามาเป็นรายได้ตั้งแต่ในช่วงเดือน มี.ค.-เม.ย.54 ซึ่งจะส่งผลต่ออัตรากำไรขั้นต้น(มาร์จิ้น)ของบริษัทปรับเพิ่มขึ้น 10% จากปัจจุบันอยู่ที่ 3-4 %
นอกจากนั้น ธุรกิจผลิตและเทรดดิ้งเหล็กจะเป็นธุรกิจหลักของบริษัท จากเดิมเป็นธุรกิจเครื่องจักรกลการเกษตร ประกอบกับ ราคาเหล็กในปัจจุบันปรับเพิ่มขึ้นมา 15 % ก็จะส่งผลต่อผลการดำเนินงานทั้งรายได้และกำไรให้ปรับตัวดีขึ้น
นายชำนิ กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทมีลูกค้าที่ต้องการสั่งซื้อเหล็กแล้ว หากกระบวนการซื้อโรงงานเสร็จสิ้นก็จะดำเนินการผลิตเพื่อส่งมอบให้ทันที โดยโรงงานเหล็กดังกล่าวมีกำลังการผลิต 2.8 แสนตัน/ปี ส่วนรายได้ในปีนี้หากการซื้อกิจการโรงงานเหล็กเป็นไปตามแผน ก็จะส่งผลทำให้ยอดขายอาจจะมากกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 1,500 ล้านบาท
"ใกล้จะเสร็จสิ้นแล้วในการซื้อโรงงานเหล็ก ถ้าเราได้ตามที่เราวางแผนไว้ก็จะทำให้เราดูยิ่งใหญ่ขึ้นในการทำธุรกิจ ภาวะการขาดทุนจากธุรกิจเครื่องจักรกลการเกษตรที่เคยเป็นก็จะดูดีขึ้น และทำให้เห็นการพลิกมาเป็นกำไรได้ อีกทั้งรายได้ก็อาจจะมากกว่าเป้าที่วางไว้ด้วย" นายชำนิ กล่าว