ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดลบ 41.55 จุดหลังสหรัฐเผยยอดค้าปลีกเพิ่มน้อยเกินคาด

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday February 16, 2011 06:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (15 ก.พ.) หลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนม.ค.ที่เพิ่มขึ้นน้อยเกินคาด นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการที่นักลงทุนกระหน่ำขายหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ดัชนีดาวโจนส์สามารถไต่ขึ้นจากระดับต่ำสุดในระหว่างวันได้ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยว่า ดัชนีการผลิตในรัฐนิวยอร์กปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 8 เดือน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดลบ 41.55 จุด หรือ 0.34% แตะที่ 12,226.64 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดขยับลง 4.31 จุด หรือ 0.32% แตะที่ 1,328.01 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดร่วงลง 12.83 จุด หรือ 0.46% แตะที่ 2,804.35 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 929 ล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วน 3 ต่อ 1

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวลงหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเดือนม.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.3% ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.6% เนื่องจากผู้บริโภคลดการใช้จ่าย อันเป็นผลมาจากพายุหิมะที่พัดกระหน่ำในหลายพื้นที่ของสหรัฐ และความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาการว่างงาน รวมทั้งเศรษฐกิจที่ขยายตัวน้อยเกินคาดของสหรัฐ

นักลงทุนจับตาดูรายงานยอดค้าปลีกอย่างใกล้ชิด เพราะตัวเลขดังกล่าวสะท้อนถึงการใช้จ่ายผู้บริโภคซึ่งเป็นหนึ่งในแรงขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจสหรัฐ

นักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มพลังงานหลังจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง โดยหุ้นเอ็กซอนโมบิล คอร์ป ปิดร่วง 2.3% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดในบรรดาหุ้นบลูชิพ 30 ตัวที่คำนวณในดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ นอกจากนี้ เอ็กซอนโมบิลรายงานว่า บริษัทได้เพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันและก๊าซในปี 2553 อีก 3.5 พันล้านบาร์เรล

อย่างไรก็ตาม ดัชนีดาวโจนส์สามารถไต่ขึ้นจากระดับต่ำสุดในระหว่างวันได้ เพราะตลาดได้แรงหนุนจากรายงานของเฟดที่ระบุว่า ดัชนีการผลิตในรัฐนิวยอร์ก (Empire State Index) เดือนก.พ.พุ่งขึ้น 3.5 จุด แตะระดับ 15.4 จุด จากเดือนม.ค.ที่ระดับ 11.9 จุด โดยดัชนีการผลิตในเดือนก.พ.ยืนอยู่ที่ระดับสูงสุดในรอบ 8 เดือน และแข็งแกร่งกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 14.3 จุด

หุ้น NYSE Euronext ซึ่งเป็นผู้บริหารตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปิดร่วง 3.4% หลังจากมีรายงานว่า NYSE Euronext และ Deutsche Boerse ซึ่งเป็นผู้บริหารตลาดหุ้นเยอรมนี บรรลุข้อตกลงควบรวมกิจการกันในช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาประไทย เพื่อจัดตั้งบริษัทตลาดหลักทรัพย์ร่วมทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ทั้งนี้ ข่าวดังกล่าวได้ฉุดหุ้น Deutsche Boerse ปิดร่วง 2.4% และหุ้น Nasdaq OMX Group ปิดร่วง 4.6%

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันพุธ กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนม.ค., กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนม.ค., เฟดจะเปิดเผยข้อมูลการผลิตในภาคอุตสาหกรรมและอัตราการใช้กำลังการผลิตเดือนม.ค. และเฟดจะเปิดเผยรายงานการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน FOMC เมื่อวันที่ 26 ม.ค.

วันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนม.ค.และ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, เฟดสาขาฟิลาเดลเฟียเปิดเผยผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจเดือนก.พ.และคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด จะเปิดเผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนม.ค. ส่วนวันศุกร์ไม่มีการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ