ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (15 ก.พ.) ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกัน 2 วันทำการ เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อในอังกฤษ หลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษระบุว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) เดือนม.ค.พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี
ดัชนี FTSE 100 ร่วงลง 23.01 จุด หรือ 0.38% ปิดที่ 6,037.08 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 6,023.77 - 6,072.07 จุด
ตลาดหุ้นลอนดอนถูกกดันจากรายงานของสำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษรที่ะบุว่า ดัชนีซีพีไอซึ่งเป็นดัชนีวัดเงินเฟ้อ พุ่งแตะ 4.0% ในเดือนม.ค. จากระดับ 3.7% ในเดือนธ.ค. โดยตัวเลขเงินเฟ้อในเดือนม.ค.ยืนอยู่ที่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 ปี และนับเป็นอีกหนึ่งเดือนที่เงินเฟ้อสูงกว่าเป้าหมายที่รัฐบาลกำหนดไว้ที่ 2%
ตัวเลขเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นอย่างรุนแรงของอังกฤษทำให้นักลงทุนจับตาดูรายงานของนายเมอร์วิน คิง ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษที่จะยื่นต่อนายจอร์จ ออสบอร์น รมว.คลังอังกฤษในวันพรุ่งนี้ เพื่ออธิบายความคืบหน้าของนโยบายอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลาง นอกจากนี้ นายคิงจะเปิดเผยตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจอังกฤษในวันพรุ่งนี้ด้วย
หุ้นเอ็กสตราต้าในกลุ่มเหมืองแร่ ปิดร่วง 2.4% หลังจากบริษัทได้ระงับการผลิตที่เหมืองอูลานในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย เนื่องจากฝนที่หนักทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วมและทำให้การส่งมอบสินค้าให้กับลูกค้าต้องถูกเลื่อนออกไป
หุ้นธนาคารบาร์เคลย์ส ปิดร่วงลง 5.8% หลังจากธนาคารเปิดเผยรายได้สุทธิปี 2553 ร่วงลงมาอยู่ที่ระดับ 3.56 พันล้านปอนด์ หรือ 5.74 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ