- ภารกิจของนายกรัฐมนตรีวันนี้ ช่วงเช้าเดินทางไปที่โรงแรมรามาการ์เด้นส์ เพื่อเป็นประธานมอบรางวัล "ราชบัณฑิตยสถานสรรเสริญ" ให้แก่ผู้ชนะการแข่งขันและผู้ที่ได้รับการคัดเลือก จากนั้นกลับมาร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2554 วงเงินราว 1 แสนล้านบาทที่รัฐสภา ซึ่งเชื่อว่าฝ่ายค้านจะใช้โอกาสนี้รับฝีปากก่อนที่จะมีการยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ
ขณะเดียวกันจะเป็นประธานประชุมติดตามความก้าวหน้าการดำเนินการตามแผนปฏิรูปประเทศไทย หลังจากนั้นให้การต้อนรับคณะผู้บริหารระดับสูงสมาพันธ์ธุรกิจญี่ปุ่น(Nippon Keidanren) และปิดท้ายด้วยการเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ
- ด้านพรรคเพื่อไทย ได้เตรียมทีมอภิปรายไว้เรียบร้อยแล้ว มีทั้งนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.สัดส่วน รวมทั้งร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน เบื้องต้นจะอภิปรายว่าเงินจำนวน 1 แสนล้านบาท ได้มาอย่างไร และจะอภิปรายเน้นหนักไปที่งบส่วนราชการ ฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยพิบัติ จำนวน 9,900 ล้านบาท โดยเฉพาะกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ได้เงินไป 1,687 ล้านบาท มีถึง 1,230 ล้านบาท ที่ไม่มีรายละเอียดโครงการที่ชัดเจน น่าจะเป็นการโยกงบลงพื้นที่พรรคพวกตัวเอง นอกจากนี้ยังมี งบของกระทรวงคมนาคม ในกรมทางหลวง และกรมทางหลวงชนบท ที่มีลักษณะเดียวกัน รวมไปถึงงบของกรมทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมด้วย
- วันนี้พรรคประชาธิปัตย์ ประเดิมเปิดแคมเปญแก้ปัญหาเศรษฐกิจยั่งยืนผ่านทีวีทุกช่อง ด้วยการออกสปอตโฆษณา 2 ชุดหลังข่าว ชุดที่ 1.เศรษฐกิจชาวบ้าน โดยผ่านเกี่ยวกับการเพิ่มรายได้ ด้วยการประกันรายได้เกษตรกร ค่าแรงขั้นต่ำ ค่าไฟฟ้าฟรีถาวร ลดภาระเรื่องพลังงานหุงต้ม และดีเซล ส่วนชุดที่ 2 ให้ความสำคัญต่อการสร้างความเข้มแข็งต่อประเทศและประชาชน เช่น การเรียนฟรี ด้วยการให้ศึกษาฟรีกว่า 12 ล้านคน และขยายเงินทุนการศึกษาจนถึงมหาวิยาลัย โดยกู้ดอกเบี้ยต่ำ เพื่อเป็นช่องทางการสื่อสารให้ประชาชนรับทราบแนวทางแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ
- นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ ต้อนรับนายอัมมาร สยามวาลา นักวิชาการสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย(TDRI)
- นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง เป็นประธานประชุมคณะกรรมการรถไฟไทย-จีนที่ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งคาดว่าจะเป็นการรายงานความคืบหน้าและติดตามโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง(ไฮสปีดเทรน) เส้นทางหนองคาย-กทม.-ปาดังเบซาร์ และการจัดทำร่างบันทึกข้อตกลงร่วม(MOU) ระหว่างไทย-จีนที่จะเสนอให้รัฐสภาพิจารณา เพื่อให้การลงมือก่อสร้างสามารถเริ่มได้ทันในต้นปี 55
- นายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ เปิดสัมมนาจัดทำแผนยุทธศาสตร์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ฯ เซ็นทรัลเวิลด์
- นายอลงกรณ์ พลบุตร รมช.พาณิชย์ เปิดประชุมใหญ่สมาคมตัวแทนออกของรับอนุญาตไทยและเสนอนโยบายการยกมาตรฐาน SME สู่สากล ที่โรงแรมแอมบาสซาเดอร์
- ติดตามความคืบหน้าสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังมีมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ(UNSC) ให้ทั้งสองประเทศเปิดการเจรจาเพื่อแก้ไขปัญหาโดยมีประธานอาเซียนเป็นคนกลางแล้ว สถานการณ์ชายแดนยังคงมีเหตุปะทะอยู่ปละปลาย โดยฝ่ายไทยระบุว่าเป็นการกระทำเพื่อยั่วยุจากฝ่ายกัมพูชา
- ธนาคารกรุงเทพ ร่วมกับชมรมบัวหลวงเอสเอ็มอี กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม และสถาบันยานยนต์ จัดสัมมนาเรื่อง "เถ้าแก่เอสเอ็มอีกับนวัตกรรม" ที่ห้องประชุมชั้น 30 ธนาคารกรุงเทพ สำนักงานใหญ่ โดยมีนักธุรกิจใหญ่มาให้ความรู้ ได้แก่ นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ ประธานกรรมการบริหารธนาคารกรุงเทพ, นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงเทพ, นางวิไลพร เจตนจันทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานเทคโนโลยี บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย(SCC), นายกมล ชุติพงศ์นาวินกรรมการผู้จัดการ บริษัท กมลแมชชีนแฟคทอรี่, นายไพจิตร แสงไชย กรรมการผู้จัดการ บริษัท เฟล็กโซ่ รีเสิร์ช กรุ๊ป, นายวัลลภ เตียศิริ ผู้อำนวยการสถาบันยานยนต์
- ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจัดสัมมนา "ถึงเล็กก็โตได้...ถ้ารู้ทางขยายทุน" โดยมีวิทยากรหลากหลาย ได้แก่ นายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม เอพีเอ็ม, นางชมเดือน ศตวุฒ กรรมการผู้จัดการบริษัท ไทยเอ็นดีที และนายธีระชัย ประสิทธิ์รัตนพร กรรมการผู้จัดการบริษัท ธีระมงคลอุตสาหกรรม
- กรมธุรกิจพลังงานนัดแถลงข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์การใช้พลังงานในประเทศ, สถานการณ์การค้าพลังงานชายแดนไทย-กัมพูชา, สรุปผลกระทบกรณีโรงกลั่นน้ำมัน PTTAR และ BCP หยุดเดินเครื่องในช่วงต้นปี 54, แนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบ, การตรวจสอบคุณภาพน้ำมันในช่วงต้นปีนี้ และมาตรการกวดขันสถานีบริการเอ็นจีวีและแอลพีจีให้เติมก๊าซเฉพาะรถยนต์ที่ติดสติกเกอร์ แต่ประเด็นร้อนน่าจะเป็นเรื่องที่ข่าวอธิบดีกรมธุรกิจพลังงานชิงลาออกก่อนถูกสั่งโยกย้าย
- ธนาคารกสิกรไทย จัดงานแถลงข่าว“ผู้ประกอบการไทยบุกตลาดส่งออกใหม่อย่างมั่นใจ” ณ ธนาคารกสิกรไทย สำนักพหลโยธิน
- กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที) จะเรียกบมจ. แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) หรือเอไอเอส บมจ. โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC) หรือดีแทค และบริษัท ทรูมูฟ จำกัด ในเครือ บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) รวมถึงบมจ.ทีโอที และบมจ. กสท โทรคมนาคม ผู้ให้สัมปทาน เข้าหารือแนวทางแก้ไขปัญหาการแก้สัญญาไม่ถูกต้อง โดยจะให้ ทีโอที และ กสท ชี้แจงรายละเอียดมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน เพื่อให้ผู้ให้บริการมือถือทั้ง 3 รายรับทราบและนำกลับไปทำข้อเสนอแต่ละรายต้องการและทั้ง 2 ฝ่ายยอมรับได้ จากนั้นจะเป็นการเจรจาระหว่างคู่สัญญาสัมปทาน คือ ทีโอที กับเอไอเอส กสท กับดีแทค และทรูมูฟ เพื่อให้ได้ข้อสรุปที่ดีที่สุดก่อนนำส่งคณะกรรมการมาตรา 22 ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมหรือดำเนินงานในกิจการของรัฐ พ.ศ.2535 หรือ พ.ร.บ.ร่วมทุน เพื่อส่งให้นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.ไอซีทีพิจารณาต่อไป