นายพิชญพงศ์ ณ บางช้าง กรรมการบริหาร บมจ.เอ็ม ดี เอ็กซ์(MDX)เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า ในปี 54 บริษัทคาดว่ารายได้จะปรับขึ้นประมาณ 10% จากปี 53 ที่คาดว่าจะมีรายได้ประมาณ 470 ล้านบาท โดยเป็นการเพิ่มขึ้นของการขายที่ดินอุตสาหกรรมเกตเวย์ซิตี้ในปีนี้ที่ตั้งเป้าเพิ่มขึ้นเป็น 70 ไร่ จากปีก่อนที่ขายได้ 47 ไร่ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาขายที่ดินในนิคมฯกับธุรกิจเอสเอ็มอีจากญี่ปุ่นในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ประมาณ 3-4 ราย คาดว่าจะได้ข้อสรุปเร็วๆนี้
"ปีที่ผ่านมาเรามุ่งไปที่ธุรกิจพลังงาน แต่มองธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมค่อนข้างดี ปี 54 เราตั้งเป้าขายที่ดินไว้ 70 ไร่ ไม่กล้าตั้งเป้าไว้มาก เพราะเราไม่ได้ขยัยตัวมานาน" นรายพิชญพงศ์ กล่าว
ขณะที่ธุรกิจไฟฟ้าในปีนี้ยังคงมีรายได้คงที่ แต่ในปี 55 คาดว่ารายได้จะเพิ่มขึ้นจากโครงการโรงไฟฟ้าน้ำเทินหินบูนส่วนต่อขยายในประเทศลาวที่จะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าเข้ามาอีก 290 เมกะวัตต์ หลังสร้างเสร็จปลายปี 54 รวมแล้วบริษัทจะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าเท่ากับ 850 เมกะวัตต์ จากปัจจุบันอยู่ที่ 560 เมกะวัตต์ โดยมาจากโรงไฟฟ้าน้ำเทินหินบุน 210 เมกะวัตต์ และ โรงไฟฟ้าบางบ่อ 350 เมกะวัตต์
นายพิชญพงศ์ กล่าวว่า บริษัทยังศึกษาลู่ทางการลงทุนในธุรกิจพลังงานทดแทน ซึ่งก่อนหน้านี้บริษัทได้ศึกษาโครงการโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์และเตรียมตัวจะลงทุน แต่เมื่อนโยบายภาครัฐเปลี่ยน จึงทำให้โครงการหยุดชะงักไป เพราะทำแล้วไม่คุ้มค่าลงทุน อย่างไรก็ตาม ได้ศึกษาธุรกิจพลังงานอื่นไว้ด้วยเช่นกัน เช่น พลังงานลม หากมีโอกาสก็พร้อมที่จะเข้าไปลงทุน เพื่อเป็นส่วนเสริมกับธุรกิจโรงไฟฟ้าที่บริษัทดำเนินการมีอยู่
ส่วนการล้างภาระขาดทุนสะสมของบริษัทที่มีอยู่กว่า 3 พันล้านบาทนั้นขณะนี้ยังไม่มีแผนงนชัดเจน แต่ก็ได้มีการศึกษาไว้หลายแนวทาง อย่างไรก็ดี บริษัทยังอยู่ในกระบวนการดำเนินการตามแผนฟื้นฟูที่คาดว่าจะสามารถออกจากแผนได้ในปี 60
ราคาหุ้น MDX เช้านี้ บวกขึ้นมา 1.25% มาอยู่ที่ 3.24 บาท เพิ่มขึ้น 0.04 บาท เมื่อเวลา 10.09 น.