(เพิ่มเติม) DELTA ตั้งเป้าปี 54 ยอดขายโต 15%, จัดงบ 1.5-1.6 พันลบ.ขยายลงทุนใน-ตปท.

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday February 16, 2011 13:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย)(DELTA)เปิดเผยว่า ในปี 54 บริษัทตั้งเป้ายอดขายเติบโต 15% จากปีก่อน มาที่ 1.2-1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่อัตรากำไรสุทธิจะสูงขึ้นมาที่มากกว่า 12% จากปีก่อนอยู่ที่ 11.7% เนื่องจากบริษัทหันมาผลิตสินค้าที่มีอัตรากำไรสูงขึ้น นอกจากนั้นในปีนี้บริษัทตั้งงบลงทุนไว้ที่ประมาณ 1.5-1.6 พันล้านบาท เพื่อสร้างโรงงานใหม่ทั้งในประเทศไทย อินเดีย และสโลวาเกีย

นายอนุสรณ์ มุทราอิศ กรรมการ DELTA กล่าวว่า ปี 54 ตั้งเป้าขยายตลาด โดยการใช้เทคโนโลยีที่สูงขึ้นเป็นตัวนำ เพื่อให้ได้กำไรดี โดยจะบุกตลาดต่างประเทศมากขึ้นเน้นที่อเมริกาเหนือ ออสเตรเลีย แคนาดา เอเชีย อินเดีย จากปีก่อนที่เป็นตลาดยุโรปเป็นหลัก 80%

นอกจากนี้ ปีนี้จะเพิ่มยอดขายโซลาเซลล์มากขึ้นจากปีก่อนที่เพิ่งเริ่มและได้รับการตอบรับที่ดี ทั้งตลาดเยอรมัน ยุโรป การที่โซลาเซลล์เป็นที่ยอมรับในตลาดโลกทำให้สินค้าอย่างอื่นของเราได้รับความสนใจตามไปด้วย ทั้งสินค้าเทเลคอม เพาเวอร์ ที่มีคุณภาพอยู่แล้วเป็นตัวหนุนเข้าไป

ทั้งนี้ คาดว่า กำไรสุทธิในปี 54 จะต้องดีกว่าปี 53 อย่างแน่นอน เพราะ net profit margin ต้องดีกว่าปี 53 อาจจะไปถึง 12% กว่า จาก 11.7% ปีก่อน จากการผลิตสินค้ามาร์จินสูง และไฮเทคโนโลยีมากขึ้น อย่างโซลาเซลล์ก็จะทำใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ประสิทธิภาพสูงขึ้นไปอีก Inverter จาก 5 แผ่นก็เป็น 10 แผ่น ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่ต้นทุนต่อหน่วยจะลดลง ต้นทุนวัตถุดิบต่างๆลงหมด แต่ราคาสินค้าจะถูกปรับขึ้นไปได้เยอะ เน้นการปรับสินค้าเดิม เพิ่มมาร์จิน

"โซลาเซลล์กำไรดี ทำให้โดยรวม net profit margin สูงขึ้นมาก...net profit margin โดยรวมกระโดดมาที่ 11.7% เพราะโซลาเซลล์ดี สินค้าอื่นก็ต้องกำไร ถ้าเสี่ยงไม่เอา เน้นที่กำไร จากสินค้ามาร์จินสูง" นายอนุสรณ์ กล่าว

สำหรับปีนี้บริษัทเตรียมงบลงทุนไว้ 1.5-1.6 พันล้านบาท แบ่งเป็นการสร้างโรงงานที่อินเดีย 600 ล้านบาท จากปี 53 ได้ซื้อที่ดินไว้แล้วปีนี้จะเป็นการอนุมัติสร้างโรงงานและซื้อเครื่องจักร คาดว่าจะก่อสร้างเสร็จปลายไตรมาส 3/54 นี้,โรงงานที่สโลวาเกีย 300 ล้านบาท ผลิต Converter Power System คาดจะเสร็จต้นไตรมาส 3/54 เช่นกัน และจะเปิดบริษัทใหม่ในไทย ซึ่งอยู่ระหว่างก่อสร้างโรงงานที่นิคมอุตสาหกรรมเวลโก ผลิต LED ดิสเพลย์ LED แลมป์ คาดเสร็จไตรมาส 3 แต่การผลิตคาดว่าจะเริ่มเร็วๆนี้ โดยใช้โรงงานเก่าผลิตไปก่อน เพราะมีออร์เดอร์สั่งเข้ามาแล้ว โดยในปี 55 เมื่อทุกอย่างพร้อมบริษัทก็คาดว่ายอดขายจะสูงขึ้นอย่างมาก

ทั้งนี้ ถ้าโรงงานในอินเดียเสร็จ ต้นทุนจะถูกลงในหลายประเด็นทั้งด้านสถานที่ตั้ง เพราะอินเดียใกล้ยุโรป ตะวันออกกลาง ขณะที่ต้นทุนขนส่งจะลง แรงงานก็ลงไปอีกเพราะสินค้าโรงงานอินเดียจะถูกส่งไป ตะวันออกกลาง เอเชีย อินเดีย ปีนี้ตลาดเอเชียจะเพิ่ม ส่วนกรณีความไม่สงบในตะวันออกกลาง ยังรอดูสถานการณ์อยู่ เนื่องจากโรงงานที่อินเดีย มีเส้นทางส่งของไปยุโรปที่ต้องผ่านตะวันออกกลางด้วย ขณะที่ตลาดใหม่อย่างออสเตรเลีย อเมริกาเหนือ ก็ยังเสี่ยงอยู่ แต่ปัจจัยที่กังวลที่สุดคือซัพพลายเออร์ อย่างไรก็ตาม บริษัทได้เตรียมแผนการเจรจากับซัพพลายเออร์เป็นรายๆ ไปในเรื่องของการซื้อวัตถุดิบ ถ้าการขายเป็นไปตามเป้าก็ยังมีเวลาเจรจาซื้อและตกลงราคากัน ส่วนการเมืองไทยไม่กังวล เพราะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ถ้ามียุบสภาก็ไม่กลัว

สำหรับการซื้อกิจการในต่างประเทศ นายอนุสรณ์ กล่าวว่า บริษัทไม่ได้ปิดตัวเอง ซึ่งตอนนี้มีเงินสดในมือ 6-7 พันล้านบาทสำหรับขยายกิจการของตัวเอง ถ้าการขยายกิจการเป็นไปได้ดี การซื้อกิจการคนอื่นหรือมีโอกาสก็จะทำ แต่ตอนนี้โตด้วยศักยภาพของตัวเองได้ ถ้าจะซื้อกิจการต้องพิจารณาว่าจะเกิดประโยชน์กับเรา และจะไม่ออกนอกเพาเวอร์อิเล็กทรอนิคส์ โดยให้บริษัทลูกแต่ประเทศดำเนินการประกาศซื้อ ทั้งอินเดีย เยอรมัน สโลวาเกีย

ในเรื่องของวัตถุดิบปีนี้ นายอนุสรณ์ กล่าวว่า อยู่ในภาวะที่คุมได้ ไม่มีปัญหาความผันผวน ราคาเริ่มลง ส่วนตะกั่วทองแดงขึ้นเป็นธรรมดา ปัจจัยเสี่ยงปีนี้ก็พยายามจะอุดหลายอย่าง เช่น ค่าเงินบาทที่มองว่าน่าจะเสี่ยงก็พยายามป้องกันความเสี่ยงไว้แล้ว เหลือแต่น้ำมัน แต่ก็จะเจรจาเป็นค่าใช้จ่ายของผู้ซื้อ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ