ก.ล.ต.-ตลท.พร้อมผลักดัน บจ.พัฒนาประสิทธิภาพ 3 หน่วยงานภายใน

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday February 17, 2011 15:20 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายชาลี จันทนยิ่งยง รองเลขาธิการ คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)กล่าวในงานสัมมนาการเติบโตของบริษัทจดทะเบียนผ่านตลาดทุนไทยว่า ความสำเร็จของบริษัทจดทะเบียนว่าจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้หากไม่มีหน่วยงานสนับสนุนที่มีประสิทธิภาพ 3 หน่วยงาน คือ เลขานุการบริษัท, หน่วยงานตรวจสอบภายใน และ ฝ่ายผู้ลงทุนสัมพันธ์ ซึ่งทาง ก.ล.ต.และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)จะสนับสนุนให้บริษัทจดทะเบียนพัฒนาประสิทธิภาพของหน่วยงานดังกล่าว

"หน่วยงานสนับสนุนทั้ง 3 นี้เปรียบเสมือนหลังบ้านที่มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าหน่วยงานหารายได้ หากงานหลังบ้านมีคุณภาพ ความเสี่ยงของบริษัทก็จะลดลง มีภาพลักษณ์ที่ดีในสายตาของผู้ถือหุ้นและทางการ ผู้ลงทุนมีความเชื่อถือและมั่นใจที่จะลงทุน ซึ่งจะทำให้บริษัทมีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จในการระดุมทุนได้โดยง่าย อีกทั้งยังสามารถเติบโตพร้อมไปกับตลาดทุนอีกด้วย" นายชาลี กล่าว

สำหรับเลขานุการบริษัท จะทำหน้าที่ดูแลให้บริษัทและผู้บริหารปฏิบัติตามกฎเกณฑ์และเก็บรักษาข้อมูลสำคัญ เพื่อให้บริษัทสามารถดำเนินงานได้ตามกฎหมาย หากบุคลากรที่ทำหน้าที่นี้ไม่มีความเหมาะสมอาจเกิดปัญหา เช่น กรณีที่บริษัทต้องซื้อสินทรัพย์ขนาดใหญ่ 40% ของมูลค่าสินทรัพย์รวม จำเป็นต้องดำเนินการตามขั้นตอนต่าง ๆ เพื่อนำไปสู่การระดมทุน หากปฏิบัติไม่ถูกต้องตามกฎระเบียบและขั้นตอนก็จะทำให้ล่าช้าหรือล้มเหลว ดังนั้น เลขานุการบริษัทจึงมีความจำเป็นต้องดูแลขั้นตอนให้ดำเนินไปอย่างถูกต้อง

ขณะที่ฝ่ายควบคุมภายในทำหน้าที่สอดส่องดูแลระบบควบคุมภายใน ทำให้บริษัทมีระบบถ่วงดุล (check and balance) และมั่นใจได้ว่าจะไม่เกิดการทุจริต ยักยอกทรัพย์สินออกจากบริษัท เพื่อให้บริษัทเติบโตไปได้ด้วยดี เช่น การขายสินค้าแต่ละประเภทก็จะต้องรู้รายละเอียดของสินค้าแต่ละตัวว่ามีต้นทุนและมาร์จิ้นเท่าใด แต่บริษัทส่วนใหญ่จะสนใจที่ผลกำไรขั้นสุดท้าย หากให้ความสำคัญกับหน่วยงานดังกล่าวก็จะมีผู้ที่เข้ามาช่วยแยกแยะว่าสินค้าชนิดใดกำไรมาก กำไรน้อย ขายอย่างไรจึงจะคุ้มต้นทุนและได้กำไร หรือต้นทุนที่ใส่ลงไปมีการรั่วไหลหรือไม่ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการเติบโตของบริษัทอย่างมาก และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับบริษัทเป็นอย่างดี

ส่วนฝ่ายผู้ลงทุนสัมพันธ์ ทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมระหว่างบริษัทกับผู้ลงทุน ช่วยเสริมและสร้างความรู้ ทำให้เกิดความเข้าใจระหว่างกัน และตอกย้ำความสัมพันธ์ที่ดีให้กระชับแนบแน่นขึ้น เพราะการนำสินค้าหรือบริการไปเสนอกับลูกค้าจะต้องรู้วิธีการนำเสนอ รวมไปถึงเข้าใจกระบวนการผลิตตั้งแต่ต้นด้วย

"บริษัทดีๆ จะให้ความสำคัญกับบุคลากรตรงนี้ แต่ถ้าบริษัทไม่ให้ความสำคัญก็จะขาดโอกาสการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าของตัวเอง 3 หน่วยงานนี้จะผลักดันการโตได้เป็นอย่างยั่งยืน เป็นเบื้องหลังของความสำเร็จ เบื้องหลังการโตของบริษัทขอให้ความสำคัญกับเรื่องนี้"นายชาลี กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ