ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก:ดาวโจนส์บวก 29.97 จุดรับผลประกอบการ,ภาคการผลิตสดใส

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday February 18, 2011 07:07 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (17 ก.พ.) ขานรับผลประกอบการที่สดใสใสภาคเอกชนและรายงานดัชนีการผลิตของโรงงานอุตสาหกรรมในเขตมิด-แอตแลนติกของสหรัฐ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวช่วยบดบังปัจจัยลบจากตัวเลขว่างงานรายงานสัปดาห์ของสหรัฐที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นด้วย

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 29.97 จุด หรือ 0.3% แตะที่ 12,318.14 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 4.11 จุด หรือ 0.3% แตะที่ 1,340.43 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดบวก 6.02 จุด หรือ 0.2% แตะที่ 2,831.58 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 875 ล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 2 ต่อ 1

ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นเนื่องจากนักลงทุนยังคงมีความเชื่อมั่นว่า ภาคการผลิตจะยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจสหรัฐ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟียเปิดเผยว่า ดัชนีการผลิตของโรงงานอุตสาหกรรมในเขตมิด-แอตแลนติกของสหรัฐ พุ่งขึ้นแตะระดับ 35.9 จุดในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.ปี 2547 จากเดือนม.ค.ที่ระดับ 19.3 จุด และสอดคล้องกับที่เฟดสาขานิวยอร์กรายงานไว้ก่อนหน้านี้ว่า ดัชนีการผลิตในรัฐนิวยอร์กพุ่งขึ้นแตระดับสูงสุดในรอบ 8 เดือน

นอกจากนี้ ข้อมูลภาคการผลิตที่แข็งแกร่งยังสามารถชดเชยปัจจัยลบจากรายงานของกระทรวงแรงงานสหรัฐที่ระบุว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 12 ก.พ. ปรับตัวเพิ่มขึ้น 25,000 ราย แตะระดับ 410,000 ราย ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานสหรัฐยังคงฟื้นตัวอย่างเชื่องช้า

ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้แรงหนุนจากดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ทั่วไป ซึ่งเป็นดัชนีวัดเงินเฟ้อที่เกิดจากราคาสินค้าเพื่อผู้บริโภค เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนม.ค. ส่วนดัชนี CPI พื้นฐานที่ไม่นับรวมราคาในหมวดพลังงานและอาหาร เพิ่มขึ้น 0.2% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นในอัตราที่ค่อนข้างต่ำ และสะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังไม่ถูกคุกคามจากปัญหาเงินเฟ้อ

หุ้นแบร์ริค โกลด์ ซึ่งเป็นผู้ประกอบการเหมืองทองคำรายใหญ่ของโลก ปิดพุ่ง 1.9% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด ขณะที่หุ้นดุ๊ค เอนเนอร์จี ปิดทะยานขึ้น 2.3% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้สุทธิพุ่งขึ้น 23% อันเนื่องมาจากการขายสินทรัพย์และความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น

หุ้นเจเอ็ม สมัคเกอร์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตเนยถั่ว Jif และกาแฟ Folgers ปิดบวก 4.2% หลังจากบริษัทได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการปี 2554 ส่วนหุ้นโคคา-โคลาปิดบวก 1.8% หลังจากบริษัทประกาศเพิ่มการจ่ายเงินปันผล


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ