ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: ตลาดหุ้นยุโรปอ่อนตัวหลังจีนเพิ่มเพดานสำรองเงินฝากแบงก์พาณิชย์

ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลงท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวนเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (18 ก.พ.) เนื่องจากแรงขายทำกำไร และจากการที่ธนาคารกลางจีนประกาศเพิ่มเพดานกันสำรองเงินฝากของธนาคารพาณิชย์อีก 0.5% ซึ่งทำให้เกิดความกังวลว่า มาตรการคุมเข้มด้านการเงินอาจส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนซึ่งเป็นตลาดส่งออกที่สำคัญของยุโรป

ดัชนี Stoxx Europe 600 ซึ่งเป็นดัชนีหุ้นกลุ่มทรัพยากรพื้นฐานในตลาดยุโรป ปิดร่วง 0.14 จุด หรือ 0.05% แตะที่ 291.02 จุด

ดัชนี FTSEurofirst 300 ซึ่งเป็นดัชนีหุ้นกลุ่มบลูชิพในตลาดยุโรป ปิดลบ 0.01% แตะที่ 1,187.03 จุด

FTSE 100 ตลาดหุ้นอังกฤษปิดปรับตัวลง 4.39 จุด หรือ 0.07% แตะที่ 6,082.99 จุด

ดัชนี CAC 40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสขยับขึ้น 4.83 จุด หรือ 0.12% ปิดที่ 4157.14 จุด

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีดีดขึ้น 21.30 จุด หรือ 0.29% ปิดที่ 7426.81 จุด

ตลาดหุ้นยุโรปได้รับแรงกดดันหลังจากธนาคารกลางจีนประกาศเพิ่มเพดานกันสำรองเงินฝากของธนาคารพาณิชย์อีก 0.50% มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 24 ก.พ.นี้เป็นต้นไป ซึ่งการกันสำรองในครั้งนี้ จะส่งผลให้ธนาคารขนาดใหญ่ต้องเพิ่มเพดานกันสำรองสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 19.5% โดยมาตรการดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะควบคุมภาวะเงินเฟ้อและดูดซับสภาพคล่องออกจากระบบ รวมทั้งสกัดกั้นการพุ่งขึ้นของราคาอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นสาเหตุหลักของปัญหาเงินเฟ้อในประเทศจีน

การประกาศเพิ่มเพดานสำรองเงินฝากครั้งล่าสุดของจีนได้ฉุดหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ในยุโรปร่วงลงอย่างหนัก โดยหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ปิดร่วง 2.2% และหุ้นริโอทินโตปิดร่วง 2.3% ส่วนหุ้นแองโกล อเมริกัน ปิดร่วง 2.2% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่อ่อนแอ

ส่วนหุ้นกลุ่มธนาคารดิ่งลงเช่นกัน รวมถึงหุ้นบีเอ็นพี พาริบาส์

นอกจากนี้ บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปยังได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในตะวันออกกลาง โดยสถานการณ์ตึงเครียดในภูมิภาคทวีความรุนแรงขึ้น เมื่ออิหร่านได้ยื่นเรื่องขอให้เรือรบ 2 ลำของกองทัพเรืออิหร่าน แล่นผ่านคลองสุเอซ ของอียิปต์ ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศของอียิปต์ก็ได้ออกมายืนยันว่าได้รับคำร้องจากอิหร่าน และกำลังพิจารณาเรื่องดังกล่าว ท่ามกลางการคัดค้านจากอิสราเอลที่ระบุว่า การกระทำของอิหร่านถือเป็นการยั่วยุ