นายอนันต์ เล้าหเรณู กรรมการ บมจ.ลานนารีซอร์สเซส(LANNA)เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า ปี 54 คาดว่ากำไรน่าจะเติบโตอย่างมากจากปี 53 ตามแนวโน้มราคาถ่านหินน่าจะดีในทิศทางเดียวกับราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น ประกอบกับ ธุรกิจเอทานอลน่าจะพลิกเป็นกำไรได้ในปีนี้ หลังจากเดินเครื่องโรงงานผลิตเอทานอลสายการผลิตที่ 2 ในช่วงต้นปีนี้
"ปีนี้ตั้งเป้ารายได้รวมโตกว่าปี 53 ที่คาดว่าจะจบที่ 8.5-9 พันล้านบาท มาจากเอทานอล 800 ล้านบาท ที่เหลือเป็นถ่านกิน ซึ่งเติบโตจากปี 52 เกือบ 30%"นายอนันต์ กล่าว
สำหรับกำไรสุทธิปี 53 คาดว่าจะสูงกว่าปี 52 เล็กน้อย เนื่องจากกำไรจากธุรกิจถ่านหินดีเกินคาด จากราคาถ่านหินที่ปรับเพิ่มสูงขึ้น แม้ว่าจะมีผลขาดทุนจากธุรกิจเอทานอล แต่เมื่อรวมกันแล้วเป็นกำไรสุทธิก็ยังสูงกว่าปี 52 ที่มีกำไรสุทธิ 655 ล้านบาท
"ปี 53 กำไรถ่านหินเกินเป้า ทะลุกำไรทุกธุรกิจทั้งปี 52 แล้ว เพียงแต่เอทานอลขาดทุนจึงไปฉุด แต่เมื่อรวมกันแล้วกำไรสุทธิก็ยังสูงกว่าปี 52 เล็กน้อย"นายอนันต์ กล่าว
นายอนันต์ กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทตั้งเป้าปริมาณขายถ่านหินที่ 4 ล้านตัน เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปีก่อนที่มีปริมาณขายมากกว่า 3 ล้านตัน โดยแนวโน้มราคาถ่านหินปีนี้ก็หวังว่าจะดีขึ้นไปอีกจากปลายปีที่ปรับขึ้นมาถึง 100 ดอลลาร์/ตัน ก็ยังเชื่อว่าตลอดทั้งปีนี้น่าจะยังอยู่ในทิศทางขาขึ้น ปัจจัยหลักอยู่ที่ราคาน้ำมัน และปัญหาน้ำท่วมในออสเตรเลียถ่านก็ขึ้น จีนก็เกิดเหตุเหมืองระเบิด รวมทั้งเส้นทางการขนส่งสินค้าทางเรือก็เป็นตัวชี้วัดว่าราคาถ่านจะวิ่งขึ้นตาม
"ธุรกิจถ่านหินช่วงนี้ดีเพราะราคาถ่านหินปรับเพิ่มสูงขึ้นโดยปลายปีช่วงธ.ค.ขึ้นมา 100 ดอลลาร์/ตันแล้ว หลังจากนั้นก็ปรับขึ้นเรื่อยๆ ปีนี้ตั้งเป้าปริมาณขาย 4 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากปี 53 คาดว่าจะขายที่ 3 ล้านกว่าเกือบ 4 ล้านตัน"นายอนันต์ กล่าว
ส่วนธุรกิจเอทานอลในปีนี้จะมีการเดินเครื่องสายการผลิตที่ 2 ซึ่งมีกำลังการผลิต 200,000 ลิตรต่อวัน ภายในช่วงต้นปี 54 นี้ โดยในเดือน ม.ค.-ก.พ.54 อยู่ช่วง test run อย่างไรก็ตาม ไตรมาส 1/54 เอทานอลคงยังไม่มีกำไร แต่น่าจะเริ่มดีขึ้นในไตรมาส 2/54
และปลายปีน่าจะเริ่มเห็นกลับมาเป็นกำไรเล็กน้อย เนื่องจากโรง 2 สามารถใช้ได้ทั้งน้ำเชื่อม มันสำปะหลัง มันเส้น กากน้ำตาล เป็นวัตถุดิบในการผลิต ขณะที่โรง 1 ใช้กากน้ำตาลได้อย่างเดียวและปีก่อนกากน้ำตาลราคาแพงมากทำให้เกิดผลขาดทุน ซึ่งปีนี้บริษัทจะมีการลงทุนตั้งลานมันฯ มูลค่า 200 ล้านบาท
"ปี 54 เอทานอลถ้าเท่าทุน break event ได้กำไรก็จะขึ้นมา"นายอนันต์ กล่าว
นายอนันต์ ยังกล่าวถึงแผนลงทุนซื้อเหมืองถ่านหินแห่งใหม่ในประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งเบื้องต้นมองการลงทุนที่ระดับ 100 ล้านเหรียญสหรัฐ/เหมืองว่า ขณะนี้กำลังพิจารณาอยู่ 3-4 เหมือง ซึ่งเป็นเหมืองขนาดเล็ก-กลาง สาเหตุที่ยังไม่สามารถสรุปได้ เนื่องจากนโยบายของบริษัทต้องการศึกษาและสำรวจให้รอบคอบก่อน โดยจะเน้นเหมืองที่ใกล้ๆ กับของเหมืองเดิม ส่วนที่เกาะสุมาตรา ไม่มีเคยมีเหมืองอยู่เลยก็จะพิจารณาด้วย เนื่องจากเป็นพื้นที่ใกล้ประเทศไทยและถ่านหินมีคุณภาพสูง
"เราต้องศึกษา ดู Due Diligence สำรวจต้องรอบคอบ ต้องบริหารความเสี่ยงอย่างเข้มงวด เพราะต้องผ่านหลายขั้นตอน...ตอนนี้ดู 3-4 เหมือง แต่ละเหมืองมีขั้นตอนในตัว ดูดิวดิลิเจน คุณภาพถ่าน ปริมาณมากน้อยแค่ไหน ราคาเท่าไร ใบอนุญาต ซึ่งต้องใช้เวลา และต้องรอบคอบ ถ้าได้มาแล้วต้องปลอดภัย" นายอนันต์ กล่าว
ส่วนราคาหุ้น LANNA ที่ปรับขึ้นมาในช่วงก่อนหน้านี้ น่าจะเป็นเพราะนักลงทุนเห็นพื้นฐานบริษัทดี ผลงานดีขึ้น กำไรที่มาจากธุรกิจถ่านหินดี จึงคาดการณ์ว่าจะจ่ายปันผลได้สูง เพราะจากนโยบายที่กำหนดจ่าย 60% ของกำไรสุทธินั้น ที่ผ่านมาจ่ายมากกว่า 60% ปี 53 และหากกำไรงวดปี 53 ดีขึ้นก็คาดว่าจะจ่ายได้มากกว่าปี 52