นายชัยศิลป์ แต้มศิริชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.สหมิตรเครื่องกล(SMIT) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 54 เติบโตต่อเนื่องอีก 10% จากปี 53 ซึ่งเป็นการตั้งเป้าหมายแบบระมัดระวัง เนื่องจากความต้องการใช้เหล็กในภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ทั้งยานยนต์ ชิ้นส่วนยานยนต์ แม่พิมพ์พลาสติก ยังมีแนวโน้มเติบโตขึ้น ซึ่งส่งผลบวกต่อบริษัท ขณะที่ราคาเหล็กในปัจจุบันก็ปรับเพิ่มขึ้นด้วย
อย่างไรก็ตาม การขยายโรงงานชุบเหล็กเพื่อรองรับงานที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาราคาเครื่องจักร น่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 30-40 ล้านบาทน่าจะได้ข้อสรุปภายในเดือน มี.ค.54 จากนั้นจะเริ่มก่อสร้างในเดือนมิ.ย.54 ขณะเดียวกันยังได้ศึกษาโรงงานปาดและเจียรเหล็ก คาดสรุปภายในเดือน ก.ค.ใช้เงินลงทุนรวมประมาณ 60 ล้านบาท
นายชัยศิลป์ กล่าวว่า การที่ราคาหุ้น SMIT ปรับเพิ่มขึ้นในวันนี้น่าจะเกิดจากนักลงทุนมองว่าผลการดำเนินงานในงวดปี 53 รายได้และกำไรปรับเพิ่มขึ้นจากปี 52 ค่อนข้างมาก โดยในส่วนของรายได้มากกว่า 2 พันล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิประมาณกว่า 200 ล้านบาท ซึ่งได้รับผลบวกจากอุตสาหกรรมเติบโต และการสั่งซื้อที่มากขึ้น รวมทั้งแผนการขยายธุรกิจในอนาคต
"จริงๆ แล้วภายใต้ศักยภาพการเติบโตของบริษัทเรา ราคาควรที่จะอยู่ที่ 3 บาท D/E เราก็ต่ำ ผมเชื่อว่าปี 54 ก็ยังดี แต่ที่ตั้งโต 10% ก็เป็นการตั้งแบบระมัดระวัง ถ้าทำได้มากก็ดีไป"นายชัยศิลป์ กล่าว
ทั้งนี้ SMIT รายงานผลประกอบการปี 53 มีกำไร 200.25 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.38 บาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่กำไร 40.13 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.08 บาท
เมื่อเวลา 16.11 น.ราคาหุ้น SMIT พุ่ง 6.87% มาอยู่ที่ 2.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.18 บาท