(เพิ่มเติม) MINTคาดปี 54 อัตรากำไรสุทธิสูงกว่า 7%,เล็งออกหุ้นกู้ 1.5 พันลบ.ในQ1/54

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday February 23, 2011 11:51 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล(MINT)คาดว่า ในปี 54 มีอัตรากำไรสุทธิสูงกว่า 7% ในปีก่อน หลังธุรกิจโรงแรมเริ่มกลับมาดีขึ้น และจะเริ่มให้บริการบริหารโรงแรมอีกอย่างน้อย 6 โรงแรมภายใต้แบรนด์อนันตรา ยิ่งไปกว่านั้นในปีนี้ยังคาดว่าจะมีรายได้จากการขายโครงการพักผ่อนแบบปันส่วนเวลา(timeshare) เพิ่มเข้ามา หลังจากเปิดโครงการอันตราวาเคชั่นคลับอย่างเป็นทางการเมื่อปลายปีที่ผ่านมา

"ปี 54 น่าจะเป็นปีที่ดีสำหรับธุรกิจรับจ้างบริหารโรงแรมของ MINT"เอกสาร ระบุ

ในช่วงต้นปี 54 เปิดให้บริการโรงแรมอนันตรา รีสอร์ท ที่มัลดีฟส์ ซึ่งเป็นโรงแรมแห่งแรกในมัลดีฟส์ที่ MINT เป็นเจ้าของเองทั้งหมด และมีแผนที่จะเปิดเซ็นต์ รีจิส โฮเต็ลและเรสซิเดนท์ กรุงเทพในปลายเดือน มี.ค.54 ซึ่ง MINT ได้เปิดตัวขายโครงการอย่างเป็นทางการในเดือน ธ.ค.53 ที่ผ่านมา ทำให้คาดว่ารายได้จากการขายในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จะเพิ่มขึ้นในปี 54

"ปี 54 ธุรกิจโรงแรมและธุรกิจที่เกี่ยวข้องกันจะมีความสามารถในการทำกำไรเพิ่มขึ้นอย่างมาก"

นางปรารถนา มงคลกุล ประธานเจ้าหน้าที่การเงิน MINT กล่าวว่า ในไตรมาส 1/54 บริษัทจะออกหุ้นกู้มูลค่า 1.5 พันล้านบาท อายุ 7 ปี เพื่อนำไปรีไฟแนนซ์หนี้เงินกู้เดิม และช่วงไตรมาสที่เหลือของปีอาจมีการออกและเสนอขายหุ้นกู้เพิ่มเติมอีก หากภาวะตลาดเอื้ออำนวย เพื่อนำไปใช้รีไฟแนนซ์หนี้

ส่วนการดำเนินธุรกิจของบริษัทในปี 54 ธุรกิจโรงแรมมีอัตราเข้าพักเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยคาดว่าทั้งปีน่าจะมีอัตราเข้าพัก 60% แต่ยังไม่ดีเท่าก่อนการเกิดเหตุการณ์ชุมุนมทางการเมืองเมื่อปีก่อนที่มีอัตราการเข้าพักมากกว่า 70% แต่ถือว่าดีกว่าปีก่อนที่มีอัตราการเข้าพักเพียง 50% เท่านั้น

ขณะที่ธุรกิจอาหารปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง โดยอัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้นจากการที่บริษัทสามารถควบคุมต้นทุนวัตถุดิบอาหาร ซึ่งคิดเป็น 30% ของรายได้ธุรกิจอาหาร

ทั้งนี้ ในปี 54 คาดว่าอัตรากำไรสุทธิและ EBIDA margin ของ MINT จะสูงกว่าปี 53 ที่อัตรากำไรสุทธิที่อยู่ระดับ 7% และ EBIDA margin อยู่ที่ 19 % และมีความเป็นไปได้ที่อัตรากำไรจะใกล้เคียง 8% เท่าปี 52 และ EBIDA margin อยู่ที่ 22% เนื่องจากอัตราเข้าพักโรงแรมเริ่มกลับมาดีขึ้น หลังจากสถานการณ์การเมืองเข้าสู่ภาวะปกติ ทำให้นักท่องเที่ยวต่างประเทศกลับมา

และในปีนี้จะมีการขายคอนโดมิเนียม st.regis ซึ่งคาดว่าจะมีรายได้เกินกว่า 1 พันล้านบาท จากปีก่อนที่มีรายได้เพียงเล็กน้อย ซึ่งปัจจุบันมียอดขายแล้ว 10 ยูนิต จากทั้งหมด 35 ยูนิต ขณะที่ธุรกิจอาหารได้ปรับตัวดีต่อเนื่องตามการเติบโตเศรษฐกิจ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ