โบรกฯเชียร์ TOP คาดกำไร Q1/54 โตดี รับค่าการกลั่นพุ่ง-ปัจจัยหนุนอื้อ

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday February 23, 2011 14:04 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์เห็นพ้องแนะ"ซื้อ"หุ้น บมจ.ไทยออยส์(TOP)คาดกำไรงวดไตรมาส 1/54 เติบโตดีกว่าไตรมาส 4/53 และไตรมาส 1/53 เป็นการตอบรับธุรกิจโรงกลั่นที่ดี โดยค่าการกลั่นตลาดสิงคโปร์ปัจจุบันขึ้นมาที่ 6 เหรียญฯ/บาร์เรลแล้ว แม้บ้านเราจะมี discount แต่ก็ยังสูงกว่าไตรมาส 4/53

อีกทั้งยังได้รับผลบวกจากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์อะโรเมติกส์ที่สูงขึ้น โดยเฉพาะ PX(พาราไซลีน) และราคาน้ำมันดิบดูไบที่เพิ่มขึ้นเหนือระดับ 100 เหรียญฯ/บาร์เรลในปัจจุบันอาจทำให้มี Stock gain รวมทั้ง TOP ยังรับผลดีจากนโยบายปรับโครงสร้างราคา LPG

นอกจากนี้ มองว่าน่า TOP จะมีการขายผลิตภัณฑ์ภายในประเทศได้มากขึ้น เนื่องจาก BCP และ PTTAR จะปิด(shut down)โรงกลั่นในเดือน ก.พ. ถึงต้นเดือน มี.ค.นี้

อย่างไรก็ดี ค่าการกลั่นเฉลี่ยปี 54 คาดว่าจะเฉลี่ยอยู่ในช่วง 4.5-6 เหรียญฯ/บาร์เรล เพิ่มขึ้นจากปี 53 ที่อยู่ในระดับ 4.1 เหรียญฯ/บาร์เรล และราคาน้ำมันดิบที่ตลาดดูไบคาดว่าปีนี้จะเฉลี่ยที่ 85 เหรียญฯ/บาร์เรล สูงขึ้นจากปีก่อนที่อยู่ในระดับ 76 เหรียญฯ/บาร์เรล

พร้อมคาดการณ์กำไรสุทฺธิปี 54 ของ TOP ไว้ในช่วง 10,475-14,159 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 53 โดยมีปัจจัยหนุนหลักจากค่าการกลั่นเพิ่มขึ้น

          โบรกเกอร์                  คำแนะนำ     ราคาเป้าหมาย(บาท/หุ้น)
          Credit Suisse               ซื้อ              99.00
          JP Morgan                   ซื้อ              96.00
          Merrill Lynch               ซื้อ              92.00
          บล.ทรีนีตี้                     ซื้อ              98.00
          บล.กสิกรไทย                  ซื้อ              95.00
          บล.ภัทร                      ซื้อ              92.00
          บล.เคที ซีมิโก้                 ซื้อ              91.00
          บล.บัวหลวง                   ซื้อ              90.00
          บล.โกลเบล็ก                  ซื้อ              90.00
          บล.เกียรตินาคิน                ซื้อ              88.00
          บล.เอเชีย พลัส                ซื้อ              86.67
          บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย)         ซื้อ              87.00
          บล.พัฒนสิน                    ซื้อ              87.00
          บล.ฟินันเซีย ไซรัส              ซื้อ              85.00
          บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย)          ซื้อ              85.00

นายเบญจพล สุทธิ์วนิช รองผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.เกียรตินาคิน แนะนำ"ซื้อ"หุ้น TOP เนื่องจากคาดว่ากำไรในงวดไตรมาส 1/54 จะเติบโตดีกว่ากำไรในไตรมาส 4/53 ที่มีกำไรสุทธิ 3,596 ล้านบาท และยังดีกว่ากำไรงวดไตรมาส 1/53 ที่มีแค่ 2,000 ล้านบาท

เนื่องจากค่าการกลั่นในตลาดสิงคโปร์ในปัจจุบันขึ้นมาที่ 6 เหรียญฯ/บาร์เรลแล้ว แม้ว่าบ้านเราจะมีการ discount ลงเล็กน้อย แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่สูงกว่าไตรมาส 4/53 ที่ค่าการกลั่นของ TOP เฉลี่ยที่ 3.6 เหรียญฯ/บาร์เรล อีกทั้งยังได้รับผลบวกจากสเปรดพาราไซลีนที่สูงขึ้น และราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นอาจทำให้ TOP อาจมีกำไรจาก stock gain ในไตรมาส 1/54 รวมทั้ง TOP ยังรับผลเต็ม ๆ จากที่รัฐฯให้การอุดหนุน LPG อีกด้วย

อย่างไรก็ดี ค่าการกลั่นเฉลี่ยปี 54 โดยรวมคาดว่าจะเฉลี่ยอยู่ที่ 4.75 เหรียญฯ/บาร์เรล เพิ่มขึ้นจากค่าการกลั่นเฉลี่ยของปี 53 ที่มี 4.1 เหรียญฯ/บาร์เรล และราคาน้ำมันดิบที่ตลาดดูไบคาดว่าปี 54 จะเฉลี่ยที่ 85 เหรียญฯ/บาร์เรล สูงขึ้นจากปี 53 ที่มีราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยที่ 76 เหรียญฯ/บาร์เรล

พร้อมคาดการณ์กำไรสุทฺธิปี 54 ของ TOP ไว้ที่ 10,475 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% จากปี 53

ด้านนายสุทธิชัย คุ้มวรชัย นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เคจีไอ(ประเทศไทย)กล่าวว่า กำไรงวดไตรมาส 1/54 ของ TOP คาดว่าจะออกมาดี ตอบรับธุรกิจโรงกลั่นที่ดี เนื่องจากค่าการกลั่นสิงคโปร์ที่สูงขึ้น(เพิ่มเป็นเฉลี่ย US$6.7 ต่อบาร์เรลในไตรรมาส 1/54 ถึงปัจจุบัน จาก US$5.5 ต่อบาร์เรลในไตรมาส 4/53)จากค่าส่วนต่างราคาผลิตน้ำมันกลั่นขั้นกลาง

และกำไรที่มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้นจากการยกเลิกเพดานราคา LPG ในเดือน ม.ค. อีกทั้งส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์อะโรเมติกส์ที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะ PX นอกจากนี้ มองว่าน่าจะมีการขายผลิตภัณฑ์ภายในประเทศได้มากขึ้น เนื่องจาก BCP และ PTTAR จะปิด(shut down)โรงกลั่นในเดือน ก.พ. ถึงต้นเดือน มี.ค.นี้

อย่างไรก็ดี ได้คาดการณ์ค่าการกลั่นเฉลี่ยของปี 54 ไว้ที่ 6 เหรียญฯ/บาร์เรล ซึ่งสูงกว่าค่าการกลั่นเฉลี่ยปี 53 ที่มีประมาณ 4 เหรียญฯ/บาร์เรล พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิปี 54 ไว้ที่ 13,330 ล้านบาท

ขณะที่บล.โกลเบล็ก ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"ซื้อ"หุ้น TOP โดยแนวโน้ม 1Q54 ผู้บริหารมีมุมมองเชิงบวกอย่างมากต่อภาพรวมธุรกิจ เนื่องจากปัจจุบันค่าการกลั่นและส่วนต่างปิโตรฯเพิ่มขึ้นอย่างมาก เพราะไม่มีแรงกดดันจาก Supply ใหม่ ขณะเดียวกันยังเป็นฤดูกาลปิดซ่อมบำรุงของบรรดาโรงกลั่นในภูมิภาค อีกทั้งจะเริ่มรับรู้กำไรจากการอุดหนุน LPG ของภาครัฐ นอกจากนี้ราคาน้ำมันดิบดูไบที่เพิ่มขึ้นเหนือระดับ 100$/bbl ในปัจจุบันอาจจะทำให้บริษัทมี Stock gain ได้อีก

พร้อมคาดกำไรสุทธิปีนี้ประมาณ 14,159 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 57%yoy ปัจจัยหนุนหลักจากค่าการกลั่นเพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยคาดค่าการกลั่นของ TOP ปีนี้ที่ 4.5$/bbl เพิ่มขึ้นจาก 3.3$/bbl ในปี 53 นอกจากนี้ปริมาณการผลิตยังเพิ่มขึ้นเนื่องจากไม่มี Shutdown เหมือนปี 53 และส่วนต่าง PX ยังทรงตัวในระดับสูง รวมทั้งรับรู้กำไรจากการอุดหนุน LPG ของภาครัฐเป็นปีแรก

ด้าน บล.ทรีนีตี้ ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"ซื้อ"หุ้น TOP เนื่องจากในปี 54 มีมุมมองที่เป็นบวกต่อภาพแนวโน้มอุตสาหกรรม ทั้งโรงกลั่น ปิโตรเคมี และน้ำมันหล่อลื่น โดยมีราคาน้ำมันดิบที่มีแนวโน้มที่ดีเป็นปัจจัยสนับสนุน จึงคาดค่าการกลั่นในปีนี้ที 6 เหรียญฯต่อบาร์เรล สะท้อนความต้องการใช้น้ำมันดีเซลและน้ำมันอากาศยานที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ปรับตัวสูงขึ้น และเชื่อว่าปีนี้ TOP จะสามารถฉวยโอกาสที่ตลาดพร้อมใจกันเอื้อประโยชน์ในทุกสายผลิตภัณฑ์และทำกำไรอย่างแข็งแกร่ง


แท็ก สิงคโปร์   (TOP)  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ