นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจขนาดใหญ่ ธนาคารทหารไทย (TMB) กล่าวว่า ในช่วงไตรมาส 1/54 ธนาคารคาดว่าจะปล่อยสินเชื่อได้ราว 6-7 พันล้านบาท ซึ่งเติบโต 4-5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่หากรวมการปล่อยสินเชื่อให้กับบมจ.บิ๊กซี ซุปเปอร์เซ็นเตอร์(BIGC)เพื่อเข้าซื้อกิจการห้างคาร์ฟูร์ในประเทศไทยอีก 1.5 หมื่นล้านบาท ก็จะทำให้ทั้งไตรมาสนี้สินเชื่อเติบโตถึง 10%
การปล่อยสินเชื่อส่วนใหญ่ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ จะเป็นสินเชื่อหมุนเวียนในสัดส่วน 80% เนื่องจากมีความต้องการสินเชื่อมาก โดยเฉพาะกลุ่มโภคภัณฑ์ และภาคการเกษตร ซึ่งเป็นตัวหลักในพอร์ตสินเชื่อรายใหญ่ของ TMB ซึ่งธนาคารมองว่าในระยะต่อไปจะเป็นกลุ่มเหล็กที่มีความต้องการสินเชื่อหมุนเวียนมากขึ้น จากการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้า
อย่างไรก็ตาม ตลอดทั้งปีนี้ ธนาคารตั้งเป้าสินเชื่อรายได้เติบโตจากปีก่อน 15% คิดเป็นวงเงิน 2.5 หมื่นล้านบาท จากฐานสินเชื่อ 1.7 แสนล้านบาทในปี 53
นายปิติ กล่าวว่า สภาพคล่องในระบบปีนี้จะลดลงไปครึ่งหนึ่งของ 1 ล้านล้านบาทในปี 53 เนื่องจากสถาบันการเงินพิเศษของรัฐเข้ามาแย่งสภาพคล่องจากธนาคารพาณิชย์ โดยเฉพาะการออกเงินฝากพิเศษให้อัตราดอกเบี้ยสูงและสลากออมสิน ทำให้สภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์เอกชนหายไป จากการที่ลูกค้าโยกเงินฝากออกไป จึงคาดว่าจะได้เห็นการแข่งขันอัตราดอกเบี้ยเงินฝากมากขึ้นในปีนี้ ทำให้ธนาคารพาณิชย์หลายแห่ง รวมทั้ง TMB ต้องเร่งหากำไรเพิ่มขึ้นจากการอนุมัติเงินกู้
ขณะที่แนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้นบวกกับสภาพคล่องในตลาดลดลง จะเป็นแรงผลักดันให้บริษัทเอกชนขนาดใหญ่มีการระดมทุนผ่านตราสารหนี้มากขึ้น เพื่อล็อคต้นทุนทางการเงินไว้