นายมนตรี ศรไพศาล ประธานกรรมการบริหาร บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย) (KEST) กล่าวว่า บริษัทเตรียมขออนุมัติที่ประชุมผู้ถือหุ้นครั้งหน้าเพื่อขอออกหุ้นกู้ไม่เกิน 2000 ล้านบาท เพื่อการลงทุนด้านตราสารอนุพันธ์ ปล่อยมาร์จิน หรือมองหาธุรกิจที่ไม่เสี่ยงมากแต่ให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอเช่นลงทุนกองทุนอสังหาริมทรัพย์ โดยหุ้นกู้ที่จะออกอายุไม่เกิน 3 ปี เป็นการทยอยออก ส่วนช่วงเวลานั้นยังไม่กำหนด เนื่องจากต้องขึ้นอยู่กับดอกเบี้ยบวกกับโอกาสในการลงทุนด้วย
ทั้งนี้ ไม่อยากลงทุนใน Prop. trade เพราะเป็นบริษัทใหญ่ อธิบายลูกค้ายากบางครั้งช่วงจังหวะไม่ดีซื้อก่อนลูกค้าหรือขายก่อนก็จะดูไม่ดี ดังนั้นจะรอให้ทางบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) มาเป็นผู้กำกับดูแล ซึ่งบริษัทเตรียมวงเงินไว้ 300-500 ล้านบาท
ส่วนดีลธนาคาร May Bank มาเลเซียเข้าซื้อหุ้นใหญ่ 44.63% ในกิมเอ็ง โฮลดิ้ง สิงคโปร์นั้น นายมนตรี คาดว่า จะจบด้วยสัญญาชำระเงินไม่เกินเดือนมี.ค.ซึ่งอยู่ระหว่างรออนุมัติจากเรกกูเรเตอร์ 5 ประเทศ คือมาเลย์ สิงคโปร์ ไทย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย
นายมนตรี คาดว่า ธุรกิจหลักทรัพย์ในปี 54 มีสัญญาณที่ดี โดยคาดว่าดัชนีจะปรับขึ้นโต 20% โดยมองเป้าดัชนี 1234 จุด กลุ่มที่น่าสนใจ สินค้าโภคภัณฑ์ น้ำมัน สินค้าเกษตร ยางพารา ข้าว บรรจุภัณฑ์ พลาสติกซึ่งได้รับผลดีจากเงินเฟ้อ
"ตลาดหุ้นไทยยังน่าจะไปได้ ปัจจัยเสี่ยงที่กังวลเรื่องเดียวคือการแข่งขันเรื่องราคา หลังเปิดเสรีในปี 55 ส่วนปัจจัยตอนนี้ อียิปต์ ลิเบียก็ยังไม่รู้จะสิ้นสุดตรงไหน ส่วนการเมืองไทยหลังปล่อยแกนนำแดงมาแล้ว อาจมีสัญญาณว่าน่าจะคุยกันได้ ไทยก็เดินหน้าต่อไป ความเสี่ยงในประเทศน่ากังวลน้อยลง แต่ปัจจัยเสี่ยงที่ต้องจับตาคือเศรษฐกิจโลกจะฟื้นหรือเปล่า" นายมนตรี กล่าว