ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียร่วงลงเป็นส่วนใหญ่ในช่วงเช้าวันนี้ เนื่องจากสถานการณ์ตึงเครียดในลิเบียส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบ NYMEX พุ่งขึ้นแตะระดับ 100 ดอลลาร์/บาร์เรลเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปีเมื่อคืนนี้
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 10,534.55 จุด ลบ 44.55 จุด ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 22,856.78 จุด ลดลง 50.12 จุด ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,506.66 จุด ลดลง 4.45 จุด ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นโซลเปิดวันนี้ที่ 1,957.63 จุด ลดลง 4.00 จุด ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปรับตัวลดลง 0.04% แตะระดับ 2,861.39 จุด อย่างไรก็ตาม ดัชนีเวทเต็ดตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 8,575.26 จุด เพิ่มขึ้น 46.32 จุด
ดัชนี MSCI Asia Pacific Index ร่วงลง 0.2% แตะระดับ 136.09 จุด เมื่อเวลา 9:40 น.ตามเวลาโตเกียวในวันนี้ ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกัน 4 วันทำการ
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX เดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 2.68 ดอลลาร์ หรือ 2.8% ปิดที่ 98.10 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยในระหว่างวัน สัญญาน้ำมันดิบทะยานขึ้นไปแตะระดับ 100 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 2 ต.ค.ปี 2551 เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันตึงตัวทั่วโลก หลังจากสถานการณ์ตึงเครียดทางการเมืองในลิเบียทวีความรุนแรงจนทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายร้อยคน
หุ้นโตโยต้า มอเตอร์ และหุ้นฮอนด้า มอเตอร์ ซึ่งเป็นสองผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของญี่ปุ่น ดิ่งลง 1% ในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นโตเกียวเช้านี้ ขณะที่หุ้นบีเอชพี บิลลตัน ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองรายใหญ่สุดของออสเตรเลีย ร่วงลง 1.2% หลังจากราคาทองแดงในตลาดโลกร่วงลงเมื่อคืนนี้ ส่วนหุ้นอินเป็กซ์ คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทสำรวจน้ำมันของญี่ปุ่น ดีดตัวขึ้น 1.9%
สัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนม.ค.ที่ตลาดนิวยอร์ก ดิ่งลง 1.9% เมื่อคืนนี้ เนื่องจากการคาดการณ์ที่ว่า สถานการณ์ที่รุนแรงขึ้นในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ จะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และทำให้อุปสงค์ทองแดงหดตัวลงด้วย