นายประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บล.คันทรี่ กรุ๊ป (CGS) เปิดเผยว่า ภาพรวมผลประกอบการในปี 54 เชื่อว่าน่าจะขยับตัวดีขึ้นต่อเนื่องจากปี 53 ตามภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดหุ้นไทยที่มีแนวโน้มขยับตัวดีเนื่อง โดยฝ่ายวิจัยของบริษัทคาดว่า SET INDEX ปีนี้จะไต่ระดับขึ้นไปถึง 1200 จุดได้และมีมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันประมาณกว่า 20,000 ล้านบาทต่อวันซึ่งจะทำให้รายได้ในส่วนของ Brokerage ขยับตัวดีตามไปด้วย บริษัทยังคงวางเป้าหมายไว้ว่าจะยังรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ใน TOP3 เหมือนเช่นที่ผ่านมา
กลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในปี 54 บริษัทจะมีการเพิ่มโปรดักส์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องตามนโยบายของการเป็นโบรกเกอร์ประเภท One Stop Service เช่น ธุรกิจ SBL หรือการยืมหลักทรัพย์ เพื่อให้สามารถบริการและตอบสนองความต้องการลูกค้าได้อย่างครบวงจร ขณะเดียวกันจะบริหารต้นทุนให้ลดลงอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการนำระบบเทคโนโลยี เข้ามาใช้เพื่อให้เกิดความสะดวกในการทำงานมากขึ้นและช่วยลดต้นทุนได้อย่างมีนัยสำคัญทีเดียว
สำหรับผลประกอบการในรอบปี 53 สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.53 บริษัทมีกำไรสุทธิ 194.04 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 174.37 ล้านบาท หรือ 886.48% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิจำนวน 19.67 ล้านบาท และ ณ วันที่ 31 ธ.ค.53 บริษัทมีกำไรสะสม จำนวน 386.31 ล้านบาท
มีรายได้รวมสำหรับปี 53 จำนวน 1,611.47 ล้านบาท ประกอบด้วย รายได้ค่านายหน้าจากการซื้อขายหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า 1,292 ล้านบาท รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการ 16.54 ล้านบาท กำไรจากการซื้อขายหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า 165.19 ล้านบาท รายได้จากดอกเบี้ยรับและเงินปันผลและดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์ 85.28 ล้านบาท ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วม 45.76 ล้านบาท และรายได้อื่น ๆ 6.70 ล้านบาท ซึ่งทำให้รายได้รวมเพิ่มขึ้น 713.95 ล้านบาท หรือ 79.55% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 897.52 ล้านบาท
“คณะกรรมการของบริษัทก็ได้มีมติให้เสนอผู้ถือหุ้นเพื่อจ่ายเงินปันผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นที่ยืนเคียงข้างกับบริษัทมาโดยตลอด และการจ่ายเงินปันผลในครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 11 ปีของบริษัทเลยทีเดียว โดยจะจ่ายในอัตราหุ้นละ 0.10 บาท" นายประสิทธิ์ กล่าว