นายสุรพล ขวัญใจธัญญา รองประธานกรรมการ บล.คันทรี่กรุ๊ป (CGS)คาดว่า รายได้และกำไรของบริษัทในปี 54 จะออกมาใกล้เคียงกับปี 53 ที่มีรายได้ 1.6 พันล้านบาท และกำไรสุทธิ 194.04 ล้านบาท จากการประเมินว่าปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นเฉลี่ยต่อวันวันอยู่ที่ 2.0-2.5 หมื่นล้านบาทใกล้เคียงปีก่อน และบริษัทจะยังคงรักษาส่วนแบ่งตลาด(มาร์เก็ตแชร์)ไว้ที่ 6%
ในปีนี้บริษัทเพิ่มการให้บริการใหม่ ๆ ได้แก่ การให้ยืมหลักทรัพย์(SBL) คาดว่าจะเริ่มให้บริการได้ในไตรมาส 2/54 และจะออกใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์(DW)ได้ในราวไตรมาส 2/54 หรือไตรมาส 3/54 โดยขณะนี้ได้จ้างทีมงานใหม่เข้ามาศึกษาแล้ว เพราะเป็นสินค้าที่มีความผันผวนสูง
ส่วนงานด้านวาณิชธนกิจ(IB) บริษัทมีดีลในมือ 5-6 ดีลที่จะนำหุ้น IPO เข้าตลาดและเป็นที่ปรึกษาการเงิน(FA) ซึ่งคาดว่าแนวโน้มปีนี้หุ้น IPO จะมีมากกว่าปีก่อน
ขณะที่การเจรจาพันธมิตรบริษัทหวังว่าจะได้ข้อสรุปในปีนี้ แม้ว่าจะยกเลิกการเจรจากับบริษัทเดิมในฮ่องกงและสิงคโปร์ เพราะตกลงกันไมได้ แต่ก็ได้เริ่มต้นมาเจรจากับบริษัทใหม่แล้ว โดยยังคงเป็นบริษัทในฮ่องกงและสิงคโปร์
นายสุรพล กล่าวถึงการลงทุนใน บลจ.เอ็มเอฟซี(MFC)ว่า CGS ยังคงถือหุ้นกว่า 24% ถือว่ามากพอที่ทำธุรกิจได้ยั่งยืนและสร้าง synergy ให้กับบริษัทที่จะเป็นช่องทางขายกองทุน ซึ่งบริษัทมีสาขาอยู่ 50 สาขา และ MFC มีสถานะกึ่งรัฐวิสาหกิจและบริหารกองทุนของภาครัฐด้วย
ส่วนพอร์ตการลงทุนของบริษัทยังคงไว้จำนวนกว่า 100 ล้านบาท โดยปี 53 บริษัทมีกำไรจากการลงทุนประมาณ 40 ล้านบาท ซึ่งถือว่าน่าพอใจ