ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดลบ 37.28 จุด เหตุวิตกลิเบีย,ยอดขายบ้านใหม่ร่วง

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday February 25, 2011 06:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (24 ก.พ.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยรายงานยอดขายบ้านใหม่ปรับตัวลดลง นอกจากนี้ ตลาดยังคงถูกกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์รุนแรงในลิเบีย อย่างไรก็ตาม ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลงเพียงเล็กน้อยเนื่องจากนักลงทุนเริ่มกลับเข้าซื้อหุ้นหลังจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกเริ่มอ่อนตัวลงและหลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง รวมถึงจำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์ที่ปรับตัวลดลงมากเกินคาด

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดลบ 37.28 จุด หรือ 0.31% แตะที่ 12,068.50 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดลบ 1.30 จุด หรือ 0.10% แตะที่ 1,306.10 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดบวก 14.91 จุด หรือ 0.55% แตะที่ 2,737.90 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 5.2 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 1 ต่อ 1

ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวลงติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เนื่องจากกระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในลิเบีย และหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐระบุว่า ยอดขายบ้านใหม่เดือนม.ค.อยู่ที่ระดับ 284,000 ยูนิต ซึ่งต่ำกว่าระดับของเดือนธ.ค.2553 อยู่ราว 12.6%

อย่างไรก็ตาม ตลาดได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนได้กลับเข้ามาซื้อหุ้นเมื่อคืนนี้ หลังจากราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ปรับตัวลดลงเป็นวันแรกในรอบ 9 วันทำการเมื่อคืนนี้ หลังจากสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ออกมาแสดงความเชื่อมั่นว่า เหตุการณ์รุนแรงในลิเบียจะไม่ส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันมากเท่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่วิตกกังวล

นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนหลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการระหว่างว่างงานในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 19 ก.พ. ร่วงลงมาอยู่ที่ระดับ 391,000 ราย จากสัปดาห์ก่อนหน้านั้นที่ระดับ 413,000 ราย ส่วนจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานโดยเฉลี่ย 4 สัปดาห์ ร่วงลงสู่ระดับ 402,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ช่วงกลางปี 2551

ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน หรือสินค้าที่มีอายุการใช้งานนานกว่า 3 ปี เพิ่มขึ้น 2.7% ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.ปี 2553 หลังจากยอดสั่งซื้อเครื่องบินพาณิชย์ของสหรัฐปรับตัวสูงขึ้น

หุ้น Priceline.com ซึ่งเป็นผู้ให้บริการท่องเที่ยวผ่านระบบออนไลน์ ปิดพุ่ง 8.5% หลังจากบริษัทเปิดเผยประกอบการไตรมาส 4 ที่ดีเกินคาด ขณะทีหุ้นทาร์เก็ต คอร์ป ปิดพุ่ง 3.5% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 11%

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในคืนวันศุกร์ตามเวลาประเทศไทย โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยการประมาณการตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 4/2553 ครั้งที่ 2 และมหาวิทยาลัยมิชิแกนจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้ายเดือนก.พ.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ