นายธนิต ธารีรัตนาวิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอเชียน อินซูเลเตอร์ (AI) เปิดเผยว่า ในปี 54 รายได้รวมของบริษัทจะสูงกว่าปีก่อน จากทั้งธุรกิจลูกถ้วยไฟฟ้าและธุรกิจไอโอดีเซลที่มีแนวโน้มการเติบโตที่ดี
บริษัทคาดว่าในปีนี้รายได้จากลูกถ้วยไฟฟ้าจะเติบโต 5-10% จากปี 53 มีรายได้ 760 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทมีแผนจะเข้าประมูลงานใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยในเร็ว ๆ นี้จะยื่นประมูลโครงการสายส่งไฟฟ้าแรงสูงและสถานีย่อยของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.)มูลค่า 800 ล้านบาท คาดว่าจะได้รับงาน 50% โดยจะรู้ผลประมูลงวดแรกในเดือน มี.ค.54 นอกจากนี้ ยังเตรียมประมูลเพิ่มอีกในเดือน ส.ค.54
สำหรับอัตรากำไรขั้นต้น(มาร์จิ้น)ของธุรกิจลูกถ้วยไฟฟ้าในปีนี้จะสูงกว่า 40% จากปี 53 อยู่ที่ 35% เนื่องจากมีการปรับกระบวนการผลิต เทคนิคลดของเสีย ทำให้มาร์จิ้นดีขึ้น และจะส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิโดยรวมของบริษัทในปีนี้ให้สูงกว่า 9% ในปีก่อน เนื่องจากรายได้จากธุรกิจไบโอดีเซลจะดี รวมถึงมีมาร์จิ้นจะธุรกิจลูกถ้วยไฟฟ้าที่ดีขึ้น
นอกจากนั้น โรงงานผลิตลูกถ้วยไฟฟ้าแห่งใหม่ที่ จ.สิงห์บุรี คาดว่าก่อสร้างแล้วเสร็จในปลายปี 54 และจะเริ่มผลิตได้ในต้นปี 55 ซึ่งจะทำให้กำลังการผลิตลูกถ้วยเพิ่มเข้ามาอีก 6 พันตัน/ปี จากปัจจุบันอยู่ที่ 9 พันตัน/ปี
ส่วนธุรกิจไบโอดีเซล คาดว่ารายได้จะสูงกว่าปีก่อนที่มีรายได้ 1,430 ล้านบาท แม้ยังคาดการณ์ปริมาณการใช้ไบโอดีเซลได้ยาก หลังจากรัฐบาลได้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายการดีเซล B2 ,B3 และ B5 จากปัญหาผลปาล์มขาดตลาด โดยเฉพาะในช่วงเดือน ก.พ.นี้กระทรวงพลังงานจึงขอความร่วมมือไม่ให้นำผลปาล์มมาผลิตไบโอดีเซล ช่วง 10 วัน ซึ่งผลกระทบที่เกิดขึ้นทำให้บริษัทไม่สามารถผลิตไบโอดีเซลส่งให้ลูกค้าได้
อย่างไรก็ตาม จากภาพรวมปัญหาการผลปาล์มในตลาดขาดแคลน ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจของบริษัทมากนัก เนื่องจากบริษัทมีการสั่งสต็อคผลปาล์มล่วงหน้าไว้แล้ว เพื่อให้สามารถส่งมอบสินค้าตามกำหนด และคาดว่าจากนี้ไปผลผลิตปาล์มจะเข้าสู่ภาวะปกติฝในช่วงที่ผลผลิตฤดูกาลใหม่ออกสู่ตลาด
บริษัทยังอยู่ระหว่างการสร้างหอกลั่นแห่งใหม่ คาดว่าแล้วเสร็จปลายเดือนมี.ค.54 และเริ่มการผลิตได้ในกลางเดือน เม.ย.54 ซึ่งจะทำให้มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีก 8 แสนลิตร/วัน จากปัจจุบัน 3.5 แสนลิตร/วัน รวมเป็น 1.15 ล้านลิตร/วัน
นายธนิต กล่าวว่า ในปี 54 บริษัทไม่มีแผนการลงทุนใหม่ๆ แต่จะเป็นการลงทุนต่อเนื่องจากปี 53 ในการขยายโรงงาน 2 แห่ง มูลค่ารวม 550 ล้านบาท และบริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาโครงการพลังงานทดแทนอื่น ๆ คาดว่าจะมีความชัดเจนใน 2 ปี โดยต้องรอให้มีการติดตั้งเครื่องจักรในโรงงานใหม่แล้วเสร็จก่อน
ปัจจุบัน สัดส่วนรายได้ของบริษัท แบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจโบโอดีเซล 60% และธุรกิจลูกถ้วยไฟฟ้า 40%