(เพิ่มเติม) BCP คาด EBITDA โรงไฟฟ้า 3 เฟส 2.2-2.3พันลบ.ปี 57 เล็งเปิดทางผู้ร่วมทุน

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday February 28, 2011 14:42 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการ บมจ.บางจากปิโตรเลียม(BCP) กล่าวว่า บริษัทคาดว่าภายในปี 57 จะมี EBITDA จากโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ทั้ง 3 เฟส ราว 2.2-2.3 พันล้านบาท

ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างพิจารณาแผนการลงทุนโรงไฟฟ้าเฟสที่ 3 กำลังการผลิต 48 เมกะวัตต์ คาดว่าจะใช้เงินลงทุน 6 พันล้านบาท เริ่มก่อสร้างในปี 55 แล้วเสร็จในปี 56 คาดว่าจะมี EBITDA ประมาณ 900 ล้านบาท/ปี

ส่วนโรงไฟฟ้าเฟสที่ 2 กำลังการผลิต 32 เมกะวัตต์ ซึ่งใช้เงินลงทุนประมาณ 3.6 พันล้านบาท คาดว่าจะประมูลหาผู้รับเหมาในช่วงไตรมาส 2/54 และสร้างแล้วเสร็จในปี 55 โดยจะสร้าง EBITDA ราว 700 ล้านบาท/ปี ขณะที่โรงไฟฟ้าเฟส 1 จะมี EBITDA ราว 700 ล้านบาท/ปี จะสร้างเสร็จในเดือนต.ค. 54

นายอนุสรณ์ กล่าวว่า บริษัทได้เข้าถือหุ้นในโรงไฟฟ้าทั้ง 2 แห่งผ่าน บริษัท บางจาก โซลาร์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด แต่ขณะนี้มีบริษัทต่างประเทศหลายแห่งเข้ามาติดต่อขอร่วมทุนในบริษัทดังกล่าว ซึ่ง BCP คาดว่าจะแบ่งขายหุ้นให้ไม่เกิน 30-40% ภายในปีนี้น่าจะมีโอกาสสรุปแนวทางการร่วมทุนได้

สำหรับผลประกอบการในปี 54 บริษัทคาดว่าค่าการกลั่นเฉลี่ยในปีนี้น่าจะอยู่ที่ 6 เหรียญ/บาร์เรล โดยได้ปรับประมาณการราคาน้ำมันปีนี้มาที่ 95-100 เหรียญ/บาร์เรล จากเดิมที่คาดว่าจะไม่เกิน 90 เหรียญ/บาร์เรล เทียบกับปีก่อนที่มีราคาเฉลี่ย 78 เหรียญ/บาร์เรล เนื่องจากเหตุการณ์ในลิเบียและความไม่สงบในตะวันออกลางมีผลกระทบต่อราคาน้ำมัน

ประกอบกับ โรงกลั่นใหม่ในปีนี้ที่คาดว่าจะมีกำลังการกลั่นเพิ่มเข้ามานั้นได้เลื่อนไปในปีหน้า ทำให้ความต้องการใช้และกำลังการผลิตในตลาดโลกอยู่ในระดับใกล้เคียงกัน อีกทั้ง ปีนี้บริษัทได้ลดการกลั่นน้ำมันดีเซลหันมากลั่นน้ำมันอากาศยานมากขึ้น ทำให้มาร์จิ้นสูงชึ้น และจะมีการผลิตตามมาตรฐานยูโร 4 ในปลายปีนี้ รวมทั้งบริษัทมีผลผลิตก๊าซ LPG เพิ่มขึ้น คาดว่าไตรมาส 3-4/54 จะผลิตเพิ่มเป็น 3-4 พันตันต่อเดือน จากปัจจุบัน -2 พันตันต่อเดือน

นายอนุสรณ์ กล่าวว่า ค่าการกลั่นที่เพิ่มขึ้นคาดว่าจะทำให้ EBITDA ในปี 54 ดีกว่าปีก่อนที่มี EBITDA ประมาณ 5.8 พันล้านบาท และค่าการกลั่นไม่รวมสต็อกอยู่ที่ 5.63 เหรียญ/บาร์เรล โดยประมาณรายการได้ทั้งปี 54 ที่ 1.5-1.6 แสนล้านบาท จากปีก่อน 1.3 แสนล้านบาท กำลังการกลั่นตั้งแต่ไตรมาส 2/54 จะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 1 แสนบาร์เรล/วัน ทั้งปีคาดว่าจะอยู่ที่ 9.2 หมื่นบาร์เรล/วัน จากไตรมาสแรกมีอุบัติเหตุไฟไหม้หน่วยกลั่นทำให้ต้องหยุดซ่อม 32 วัน

ส่วนการลงทุนในปี 54 บริษัทตั้งงบลงทุนไว้ประมาณ 9 พันล้านบาท ซึ่งจะใช้ในธุรกิจโรงกลั่นและการตลาดซึ่งเป็นงบปกติ 1 พันล้านบาท ซึ่งส่วนหนึ่งจะใช้เงินลงทุนกว่า 500 ล้านเพื่อใช้ในการปรับปรุงสถานีบริการน้ำมันให้มีลักษณะสวยงามทันสมัย นอกจากนี้ ลงทุนปรับปรุงคุณภาพตามมาตรฐานยูโร 4 วงเงิน 1.5 พันล้านบาท ลงทุนในธุรกิจเอทานอล 2 พันล้านบาท ไบโอดีเซล 100 ล้านบาท โรงไฟฟ้าโซลาร์เซล 4 พันล้านบาท

ขณะที่การลงทุนในเหมืองโปแตซยังไม่ได้พิจารณาจำนวนเงินที่แน่นอน เพราะบริษัทต้องการถือหุ้น 25% จากปัจจุบันที่ถือหุ้นอยู่ 16% ซึ่งจากกำลังการผลิตคาดการณ์ที่ 5 แสนตันต่อปี ทั้งโครงการนี้น่าจะจะต้องใช้เงินลงทุน 1 หมื่นล้านบาท

นายอนุสรณ์ กล่าวว่า ปีนี้บริษัทต้องการเข้าไปร่วมทุนกับบริษัทผลิตเอทานอล ทั้งโรงผลิตและพื้นที่ปลูกมันสำปะหลัง โดยต้องการเข้าไปถือหุ้นในแต่ละบริษัทประมาณ 40% เพราะใน 3 ปีข้างหน้าบริษัทจะมีความต้องการใช้ประมาณ 4 แสนลิตร/วัน จากปัจจุบัน 2 แสนลิตรต่อวัน ซึ่งบริษัทได้ร่วมลงทุนกับบริษัท อุบล ไบโอดีเซล 20% ก็จะมีเอทานอลป้องให้โรงกลั่นเพื่อทำ E20 จำนวน 8 หมื่นลิตร/วัน

ด้านธุรกิจไบโอดีเซลปีนี้จะมีการขยายกำลังการผลิตเพิ่มอีก 6 หมื่นลิตรวัน เป็น 3.6 แสนลิตร/วัน

นายสุรชัย โฆษิตเสรีวงค์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานด้านบัญชีและการเงิน BCP กล่าวว่า ในช่วงครึ่งปีหลังหรือประมาณไตรมาส 3/54 บริษัทมีความต้องการระดมทุน 5 พันล้านบาท อาจจะออกเป็นหุ้นกู้หรือใช้เงินกู้จากเอดีบีหรือกองทุนต่างประเทศที่สนับสนุนกรีนเอนเนอร์ยี่ เพื่อนำเงินไปใช้ลงทุนในโรงไฟฟ้าโซลาร์เซลล์ เฟส 2 ต่อเนื่อง เฟส 3


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ