โบรกเกอร์เห็นพ้องแนะ"ซื้อ"หุ้นบมจ.อินโดรามา เวนเจอร์ส(IVL)หลังจากผลประกอบการไตรมาส 4/53 ที่สูงเป็นประวัติการณ์ และปี 54 คาดว่าการทำกำไรยังเติบโตต่อเนื่อง โดยมองที่เฉลี่ย 13,000-15,000 ล้านบาท โดยได้ประโยชน์จาก spread margin ของ PTA ที่เพิ่มขึ้นเป็น 380 US$/ตันในปัจจุบัน จาก 320 US$/ตัน ใน 4Q53 และ Polyester อยู่ในระดับสูง
ขณะที่กำลังการผลิตปี 54-57 เติบโตสูงเป็น 10 ล้านตัน/ปี เน้นการเพิ่มกำลังการผลิต PTA และ PET จากความต้องการเพิ่มขึ้นสูงตามการขยายตัวของอุปสงค์ทั่วโลก ด้านราคาหุ้นยังต่ำกว่าในอดีต ภายใต้ปัจจัยพื้นฐานที่ยังแข็งแกร่ง กำไรในอนาคตที่จะเติบโตเฉลี่ย 23-25% ต่อปีใน 4 ปีข้างหน้า จากการขยายกิจการสร้างโรงงานใหม่-การเข้าซื้อกิจการ Trevira ในเยอรมนีและโปแลนด์เป็นปัจจัยสนับสนุน
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย(บาท/หุ้น) บล.เอเชียพลัส ซื้อ 69 บล.บัวหลวง ซื้อ 66 บล.ดีบีเอสฯ ซื้อ 63 บล. ยูไนเต็ด ซื้อ 62 บล.เกียรตินาคิน ซื้อ 60 บล.กิมเอ็ง ซื้อ 52
นางมุกดา ห่มม่วง นักวิเคราะห์ บล.ยูไนเต็ด แนะ"ซื้อ"IVL เนื่องจากมองว่ากำไรในปี 54 จะเติบโตหลังจากการประกาศกำไรในไตรมาส 4/53 ที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยคาดว่ากำไรสุทธิปี 54 จะเพิ่มขึ้นเป็น 14, 955 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 42% จากปีก่อน เพราะกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นเป็น 5.8 ล้านตัน จาก 3.5 ล้านตันในปี 53 หลังการเข้าซื้อธุรกิจและขยายกำลังผลิตเมื่อปีก่อน
รวมทั้งส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์-วัตถุดิบ(spread) ของ PTA และเส้นใยโพลีเอสเตอร์ มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นด้วย โดยคาดว่า Spread ของ PTA เพิ่มขึ้นเป็น 380 US$/ตันในปัจจุบัน จาก 320 US$/ตัน ใน 4Q53 ขณะที่ PET อยู่ที่ 230 US$/ตัน ทรงตัว QoQ
ปีนี้ IVL มีโครงการเข้าซื้อกิจการและขยายกำลังผลิตวงเงินลงทุน 1 พันล้านเหรียญในปี 54 ซึ่งปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อเข้าซื้อกิจการในต่างประเทศอีก 6 โครงการ รวมทั้งโครงการก่อสร้างโรงงานใหม่ 2 แห่งที่ประเทศอินเดียและตะวันออกกลาง เพื่อให้เป็นไปตามที่บริษัทได้ตั้งเป้าหมายกำลังการผลิตปี 54-57 เติบโตเป็น 10 ล้านตัน/ปี โดยจะใช้เงินลงทุน 3.8 พันล้านเหรียญ
ด้านนางสาวอุษณีย์ ลิ่วรัตน์ นักวิเคราะห์ บล.เอเชียพลัส กล่าวว่า แม้ราคาหุ้น IVL จะได้รับผลกระทบอย่างมากในด้านจิตวิทยาต่อการปรับโครงสร้างการถือหุ้นของบริษัทฯในช่วงที่ผ่านมา แต่พื้นฐานของ IVL ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลง โดยภายหลังการเพิ่มทุนสำเร็จจะทำให้มีสัดส่วนหนี้สินต่อทุนที่ลดลง สามารถเพิ่มศักยภาพในการก่อหนี้เพื่อเข้าลงทุนในโครงการใหม่ๆ ได้ตามแผนที่ตั้งเป้าไว้ และมอง EPS ใน 4 ปีข้างหน้าเติบโตขั้นต่ำถึง 33% p.a.(CAGR)จากปริมาณการผลิตที่จะเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ การที่ IVL เป็นผู้นำทางด้าน PET ระดับโลก ถือว่าได้เปรียบทั้งในด้านต้นทุน คาดว่าจะเห็นการเติบโตในปี 54 ไม่ต่ากว่า 30% จากปี 53 ที่มีการเติบโตของรายได้กว่า 10,000 ล้านบาท จากกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น และเรายังมีมุมมองบวกต่อการต่อยอดธุรกิจไปยังผลิตภัณฑ์ขั้นปลายที่มีมูลค่าเพิ่ม
แผนการเพิ่มกำลังการผลิต PET, PTA และเส้นใยโพลีเอสเตอร์ในช่วง 4 ปีข้างหน้า(สิ้นสุดปี 2557) ขึ้นสู่ระดับ 10 ล้านตัน/ปี ส่วนใหญ่จะเน้นไปที่การเพิ่มกำลังการผลิต PTA และ PET ส่วนเส้นใยโพลีเอสเตอร์ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มนั้น จะเพิ่มสัดส่วนขึ้นเป็น 15% ของปริมาณการผลิตรวม จากปัจจุบันที่อยู่ระดับเพียง 9.4% ของปริมาณการผลิตรวม หรือราว 7 แสนตัน/ปี ซึ่งสอดคล้องกับแผนที่ได้เข้าซื้อกิจการ Trevira ในเยอรมนีและโปแลนด์(GmbH)
การเข้าซื้อกิจการ Trevira GmbH จะเป็นปัจจัยหนุนต่อธุรกิจ IVL เพราะถือเป็นบริษัทที่มีจุดแข็งในการผลิตเส้นใยสังเคราะห์ ซึ่งใช้ในธุรกิจยานยนต์และครัวเรือน โดยมี Brand เป็นที่ยอมรับในกลุ่มลูกค้าและผู้ผลิตเส้นใยสังเคราะห์ รวมถึงมีสิทธิบัตรที่มีมูลค่าและเทคโนโลยีการผลิต อีกทั้งยังมีการวิจัยและพัฒนา(R&D)ที่เข้มแข็งทำให้สามารถสร้างประโยชน์ต่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์โดยรวมของกลุ่ม IVL ที่ตั้งไว้ในระยะยาวได้ เราประเมินว่าการซื้อกิจการจะเสร็จสิ้นภายใน 2Q54 และคาดว่าจะสามารถสร้างกำไรให้กับ IVL ได้ภายในปี 54 นี้
ขณะที่ บทวิเคราะห์ บล.กิมเอ็ง ระบุว่า บริษัทยังคงแนะนำ"ซื้อ"หุ้น IVL โดยได้ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 54 เพิ่มขึ้นเป็น 13,390 ล้านบาท จากประมาณการเดิม 11,971 ล้านบาท เนื่องจากมองว่า spread margin ของ PTA และ Polyester ที่ทรงตัวในระดับสูง จากราคา Cotton ที่ปรับตัวสูงขึ้น และปัญหา Supply shortage ในอุตสาหกรรมต้นน้ำ ซึ่งในเบื้องต้นคาดว่ากำลังการผลิตรวมจะเพิ่มขึ้นอีก 2.1 ล้านตัน เป็น 5.7 ล้านตันในช่วงครึ่งแรกปี 54
มองว่าในไตรมาส 1/54 ผลการดำเนินงาน จะดีกว่า 4/53 จาก spread margin ของ PTA และ Polyester ที่ทรงตัวในระดับสูง 350 เหรียญ/ตัน รวมทั้งกำลังการผลิตใหม่ที่เพิ่มขึ้นถึง 1 ใน 3 ของกำลังการผลิตเดิมในไตรมาส 4/53
ขณะที่ด้านราคาหุ้นปัจจุบันปรับลงมาซื้อขาย P/E ปี 54 ที่ 15.2 เท่าต่ำกว่า P/E ในอดีตของ IVL ที่เทรดกันสูงกว่า 20-35 เท่า ภายใต้ปัจจัยพื้นฐานที่ยังแข็งแกร่ง กำไรในอนาคตที่จะเติบโตเฉลี่ย 23-25% ต่อปีใน 4 ปีข้างหน้า ตามการขยายตัวของอุปสงค์ทั่วโลกต่อ PET และโพลีเอสเตอร์สำหรับผลิตบรรจุภัณฑ์และเครื่องน่งห่ม จากการขยายกิจการโดยสร้างโรงงานใหม่ - การเข้าซื้อกิจการ Trevira ในเยอรมนีและโปแลนด์หนุน