ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดพุ่ง 95.89 จุดขานรับข้อมูลศก.สหรัฐสดใส

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday March 1, 2011 06:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (28 ก.พ.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง รวมถึงตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภค นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่นายเจมส์ บุลลาร์ ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาเซนต์หลุยส์ ได้แสดงความเชื่อมั่นว่า ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นจะไม่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐมากนัก

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งขึ้น 95.89 จุด หรือ 0.79% ปิดที่ 12,226.34 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 7.34 จุด หรือ 0.56% ปิดที่ 1,327.22 จุด และดัชนี Nasdaq ดีดตัวขึ้น 1.22 จุด หรือ 0.04% ปิดที่ 2,782.27 จุด

สำนักข่าววซินหัวรายงานว่า ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ รวมถึงรายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐที่ระบุว่า ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคประจำเดือนม.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.37 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือ 0.2% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 7 ขณะที่รายได้ส่วนบุคคลปรับตัวเพิ่มขึ้น 7.83 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือ 0.7%

ขณะเดียวกันมีรายงานว่า กิจกรรมทางธุรกิจในเขตมิดเวสต์ของสหรัฐปรับตัวขึ้นมากเกินคาดในเดือนก.พ.

นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการแสดงความคิดเห็นของนายบุลลาร์ด ผู้ว่าการเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ที่ว่า ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นจะไม่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐมากนัก และราคาน้ำมันดิบในปัจจุบันก็ยังไม่สูงพอที่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจด้วย นอกจากนี้ นายบุลลาร์ดคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัวแข็งแกร่งในปี 2554

นักลงทุนขานรับคำกล่าวของนายวอร์เรน บัฟเฟตต์ ประธานบริษัทเบิร์กเชียร์ แฮทธาเวย์ ที่ระบุในหนังสือเวียนถึงกลุ่มผู้ถือหุ้นว่า เบิร์กเชียร์ แฮทธาเวย์ จะเข้าซื้อหุ้นในบริษัทต่างๆเพิ่มขึ้นอีก

นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันดิบ NYMEX ที่ร่วงลงเกือบ 1 ดอลลาร์ หลังจากมีรายงานว่าท่าเรือบางแห่งในลิเบียได้เปิดดำเนินการแล้ว และหลังจากซาอุดิอาระเบียประกาศเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อชดเชยภาวะพลังงานขาดแคลนอันเนื่องมาจากสถานการณ์ตึงเครียดในลิเบียและตะวันออกกลาง

หุ้นเนชั่นไวด์ เฮลธ์ พร็อพเพอร์ตีส์ ปิดพุ่ง 10% หลังจากมีรายงานว่าบริษัทเวนตัส อิงค์ จะเข้าซื้อกิจการเนชั่นไวด์ เฮลธ์ พร็อพเพอร์ตีส์ มูลค่า 5.8 พันล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม ข่าวดังกล่าวได้ฉุดหุ้นเวนตัสปิดร่วง 3% ส่วนหุ้น Amazon.com ปิดลบ 2.2% หลังจากนักวิเคราะห์ของยูบีเอสประกาศลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าว

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่ทางการสหรัฐจะเปิดเผยในสัปดาห์นี้ โดยวันอังคาร สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) จะเปิดเผยดัชนีภาคการผลิตเดือนก.พ. และกระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลค่าใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเดือนม.ค. วันพุธ ADP Employer Services จะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนเดือนก.พ. และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ (Beige Book)

วันพฤหัสบดี แรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และ ISM จะเปิดเผยดัชนีภาคบริการเดือนก.พ. ส่วนวันศุกร์ กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.พ. และกระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยยอดสั่งซื้อของโรงงานเดือนม.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ