หุ้น GRAND พุ่งชนซิลลิ่ง 29.46% มาอยู่ที่ 2.90 บาท เพิ่มขึ้น 0.66 บาท เมื่อเวลา 14.34 น. โดยเปิดตลาดที่ 2.10 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 2.90 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 2.10 บาท
บ่ายนี้ บมจ.แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้(GRAND)และบริษัทย่อย ประกาศผลกำไรปี 53 เท่ากับ 733.36 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.59 บาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ขาดทุน 544.25 ล้านบาท ขาดทุนต่อหุ้น 0.43 บาท
พร้อมชี้แจงว่า เนื่องจากบริษัทฯมีการบันทึกกำไรจากการปรับโครงสร้างหนี้หลังจากหักค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง 1,291.7 ล้านบาท จากการที่บริษัทได้เข้าทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้กับบริษัทในต่างประเทศแห่งหนึ่ง ในฐานะผู้ถือหุ้นกู้แบบมีประกันประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัว ซึ่งบริษัทดังกล่าวได้รับโอนหุ้นกู้ดังกล่าวพร้อมดอกเบี้ยค้างรับรวมทั้งหมดเป็นจำนวน 6,364 ล้านบาท จากผู้ซื้อหุ้นกู้เดิม(Lehman Brothers Commercial Corporation Asia Limited) ณ วันทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้(21 ธันวาคม 2553) บริษัทได้รับชำระหนี้ให้แก่บริษัทดังกล่าว 2,500 ล้านบาท โดยบริษัทได้ทำการปลดหนี้ให้แก่บริษัทและบริษัทย่อย 1,400 ล้านบาท
และภายในปี 2554 บริษัทดังกล่าวก็จะปลดหนี้ให้แก่กลุ่มบริษัทอีกจำนวนประมาณ 1,000 ล้านบาท ภายหลังจากที่บริษัทได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผุ้ถือหุ้นให้ออกหุ้นเพิ่มทุนใหม่ให้แก่เจ้าหนี้(Private Placement)ในลักษณะแปลงหนี้เป็นทุนอีกจำนวน 1,000 ล้าบาท ซึ่งจะทำให้บริษัทมีหนี้คงเหลือที่จะต้องชำระอีก 500 ล้านบาท ภายในสิ้นปี 2554 โดยที่ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมนี้ในเบื้องต้นมีจำนวน 108.3 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาผลกำไรสุทธิของบริษัทฯโดยไม่นำผลกำไรสุทธิจากการปรับโครงสร้างหนี้ข้างต้นมาคำนวณบริษัทฯจะมีผลขาดทุนสุทธิประจำปี 2553 งบการเงินรวม 558.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.1 ล้านบาท จากขาดทุนสุทธิ 544.2 ล้านบาท ในปี 2552