นายบดินทร์ แสงอารยะกุล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ บมจ.ไพลอน(PYLON)เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าไตรมาส 1/54 จะมีกำไรสุทธิดีกว่าไตรมาส 4/53 ที่มีกำไรสุทธิ 25.02 ล้านบาท
และกำไรสุทธิทั้งปี 54 น่าจะออกมาดีกว่าปี 53 ที่มีกำไร 32.35 ล้านบาท จากประมาณการรายได้ที่คาดว่าจะอยู่ที่ 1 พันล้านบาท เป็นผลจากบริษัทหันมารับงานค่าแรงมากขึ้น เพราะมีอัตรากำไร(มาร์จิ้น)สูงถึง 20-30% ขณะที่งานฐานรากมีมาร์จิ้นเฉลี่ยเพียง 7-10% โดยขณะนี้สัดส่วนงานค่าแรงเพิ่มมาเป็น 60% จากเดิม 40% และงานฐานรากลดลงเหลือ 40% จากเดิมอยู่ที่ 60%
นายบดินทร์ กล่าวว่า การปรับกลยุทธ์มารับงานค่าแรงที่บริษัทได้ดำเนินการมาตั้งแต่ ธ.ค.53 ต่อเนื่องจนถึงขณะนี้นั้น ส่งผลให้ อัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาส 4/53 เฉลี่ยอยู่ที่ 20% สูงเป็นประวัติการณ์ ขณะเดียวกัน บริษัทยังได้ทยอยปรับราคาการรับงานอีก 3-5% ตามต้นทุนที่สูงขึ้นจากราคาเหล็กและน้ำมัน
"เราหวังผลประกอบการปี 54 ค่อนข้างมาก โมเมนตั้มจากไตรมาส 4 ทำให้เราเห็นภาพชัดเจนขึ้นว่าในปีนี้จะออกมาอย่างไร แต่ครึ่งปีแรก เห็นภาพแน่นอนอยู่แล้ว และทั้งปีน่าจะเป็นไปตามที่คาดหวังไว้ที่จะมีรายได้ 1 พันล้านบาท เพราะตอนนี้เรามี backlog ที่จะรับรู้ถึงปี 55 จากมูลค่า backlog ในมือ 1 พันล้านบาท"นายบดินทร์ กล่าว
ขณะนี้บริษัทมีงานที่รอรับรู้รายได้ 1 พันล้านบาท และยังมีงานที่อยู่ระหว่างการประมูล โดยบริษัทคาดว่าจะมีส่วนร่วมในงานโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดง จากมูลค่าโครงการ 7.7 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นส่วนของงานฐานราก 1.3 หมื่นล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะรู้ผลในเดือน พ.ค.-มิ.ย.54 โดยงานดังกล่าวอยู่นอกเหนือจากงานที่มีอยู่ในปัจจุบันที่อยู่ระหว่างการยื่นประมูลงานก่อสร้างใหม่ มีมูลค่ารวมกว่า 800 ล้านบาท
นายบดินทร์ กล่าวว่า บริษัทมีแผนจะขยายงานเพื่อให้ธุรกิจมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในอนาคตหากบริษัทสามารถสร้างรายได้แตะระดับ 1,500 ล้านบาท ก็มีความเป็นไปได้ที่จะมีการเพิ่มทุนเพื่อรองรับการขยายงานต่อไปอีก และเพื่อเตรียมย้ายเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ จากปัจจุบันอยู่ในตลาด mai แต่คงจะยังไม่ดำเนินการในเร็ว ๆ นี้ เนื่องจากขณะนี้ยังมีเงินทุนเพียงพอดำเนินธุรกิจ