นายสมนึก พจน์เกษมสิน กรรมการผู้จัดการ บมจ.สยามฟิวเจอร์ ดีเวลอปเมนท์(SF) กล่าวว่า บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาการเปิดโครงการขนาดใหญ่ในระดับเดียวกับ"เมกะบางนา"ให้ได้ 3 แห่งภายใน 10 ปี โดยสนใจพื้นที่ทางเหนือและทางตะวันตกของกรุงเทพ ซึ่งแต่ละแห่งต้องห่างกันอย่างน้อย 50 กิโลเมตรขึ้นไป แต่ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นกับพันธมิตรร่วมทุนด้วย
"เราก็เคยพูดตั้งแต่เปิดตัวเมกะบางนาแล้วว่าโครงการใหญ่ ๆ 10 ปี ก็อยากจะเปิดสัก 3 แห่ง แต่ทั้งนี้ก็ไม่รู้ว่าจะเปิดได้หรือเปล่า ก็ต้องขึ้นกับหุ้นส่วนด้วย...ทางเหนือของกรุงเทพก็น่าสนใจ ไปทางอยุธยา และทางตะวันตกก็เป็นไปได้ ก็อยู่ระหว่างการศึกษาแต่ละแห่งห่างกัน 50 กิโลเมตรเป็นต้นไป"นายนพพร กล่าว
สำหรับความคืบหน้าโครงการ"เมกาบางนา"ที่เริ่มก่อสร้างไปตั้งแต่ช่วงเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา ปัจจุบันแล้วเสร็จไปกว่า 30% ขณะที่พื้นที่เช่าร้านค้าต่างๆ ถูกจองไปแล้วกว่า 70% ซึ่งบริษัทคาดว่าพื้นที่เช่าจะเต็ม 100% ไม่เกินสิ้นปีนี้ โดยราคาค่าเช่าเฉลี่ยของโครงการเริ่มต้นที่ 1,500-3,000 บาท/ตารางเมตร แล้วแต่ขนาด ทำเล และประเภทของธุรกิจ
ในส่วนของห้างอิเกียร์ สโตร์ ที่จะเปิดให้บริการก่อนในวันที่ 3 พ.ย.นี้ ปัจจุบันงานก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานได้แล้วเสร็จสมบูรณ์ กำลังอยู่ในระหว่างการตกแต่งภายใน
"โครงการเมกาบางนา เราตั้งเป้าเมื่อเปิดให้บริการ 100% ในปีหน้าแล้วจะมีผู้มาใช้บริการ 40 ล้านคน/ปี และจะมีรายได้จากค่าเช่าเข้ามาปีละ 1,500 ล้านบาท คาดว่าจะ Break even ได้ภายใน 10 ปี ปัจจุบันการก่อสร้างก็คืบหน้าไปตามแผน โดยในส่วนของโฮมโปรก็แล้วเสร็จไปแล้วกว่า 30%, บิ๊กซี 30%, เมเจอร์ 20%, อิเกียร์ โครงสร้างพื้นฐานเสร็จหมดแล้ว ส่วนห้างที่จะมาเปิดก็เป็นโรบินสันก็คืบหน้าแล้วกว่า 20% ซึ่งทาง CRC ก็จะเอาแบรนด์ต่างๆมาเปิดหมดทั้ง Supersport, Top Supermaket, Powerbuy, B2S, Office depo"นายนพพร กล่าว
นายนพพร กล่าวว่า บริษัทมีแผนจะสร้างสถานีรถโดยสารสาธารณะเชื่อมต่อการเดินทางเข้ามาภายในศูนย์การค้า"เมกะบางนา" เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้มาใช้บริการ ปัจจุบันมีผู้ประกอบการรถตู้โดยสารประจำทางไม่ต่ำกว่า 15 เส้นทาง ตกลงที่จะมาใช้พื้นที่แล้ว คาดว่าหลังเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการแล้วจะมีลูกค้าที่จะเข้ามาใช้บริการกว่า 1 หมื่นคน/วัน หรือประมาณ 4 ล้านคน/ปี และคาดว่า 25% ของลูกค้าที่จะใช้บริการต่อวันที่ 1.1 แสนคน จะใช้บริการขนส่งมวลชนสาธารณะ
*ตั้งเป้าปี 54 รายได้โตขั้นต่ำ 5%, เตรียมเปิดศูนย์ใหม่อีก 2 แห่ง
นายนพพร กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ขั้นต่ำปี 54 เติบโต 5% จากปี 53 ที่มีรายได้ 2,137.90 ลบ. โดยเป็นไปตามการปรับขึ้นค่าเช่าพื้นที่เช่า ซึ่งบริษัทมีนโยบายปรับขึ้นทุกช่วง 3 ปีประมาณ 15% หรือเฉลี่ยปีละ 5% โดยปัจจุบัน ค่าเช่าพื้นที่เฉลี่ยของศูนย์การค้าทั้ง 30 แห่งของบริษัทอยู่ที่ 530 บาท/ตารางเมตร เพิ่มขึ้นจากช่วงต้นปี 53 ที่อยู่ในระดับ 424 บาท/ตารางเมตร
ทั้งนี้ การเติบโตของรายได้ในปีนี้อยู่ภายใต้ศูนย์การค้าภายใต้การบริหารงาน 30 แห่ง พื้นที่เช่ารวม 2.2 แสนตารางเมตร ยังไม่นับรวมการเปิดศูนย์การค้าแห่งใหม่ในปีนี้ที่บริษัทตั้งงบลงทุนไว้ประมาณ 500-600 ล้านบาท เพื่อใช้เปิดศูนย์การค้าอีกอย่างน้อย 2 แห่ง
ได้แก่ โครงการนวมินทร์ซิตี้เฟส 2 ที่จะใช้ชื่อโครงการว่า"Festival walk"มีพื้นที่เช่าประมาณ 8 พันตารางเมตร คาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 300 ล้านบาท และจะเปิดให้บริการภายในเดือน ส.ค.นี้ ปัจจุบันสามารถขายพื้นที่เช่าไปแล้วกว่า 50%
ส่วนอีกโครงการอยู่ในระหว่างการหาพื้นที่ คาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 200-300 ล้านบาท โดยจะมีขนาดพื้นที่เช่าประมาณ 1 หมื่นตารางเมตร
ด้านนายนพพร วิฑูรชาติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SF กล่าวว่า ในปี 54 บริษัทมีแผนจะปรับปรุงศูนย์การค้าเดิม 3 แห่ง ได้แก่ ที่สุขาภิบาล 3, บางบอน และ ประชาอุทิศ คาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 50 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นงบลงทุนประจำในแต่ละปีอยู่แล้ว
"ศูนย์การค้าชุมชนคิดว่ายังทำได้อีกเยอะในเขตกรุงเทพ ตามเมืองที่ขยายออกไป ซึ่งคนที่ไปอยู่ตามชุมชนใหม่ๆส่วนใหญ่ก็เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์ มองว่าตลาดยังไม่ over supply"นายนพพร กล่าว