นายแพทย์ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ ประธานคณะผู้บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ(BGH) กล่าวว่า บริษัทคงเป้ารายได้ปี 54 เติบโตเฉลี่ย 11% จากปีก่อนที่มีรายได้ 2.35 หมื่นล้านบาท และอัตราการใช้เตียงผู้ป่วยขยายตัวราว 10-11% เช่นกัน แม้ว่าช่วง 2 เดือนอัตราการใช้เตียงผู้ป่วยจะเติบโตได้เพียง 8% ซึ่งต่ำกว่าเป้า แต่ยังหวังว่าช่วงเวลาที่เหลือจะปรับตัวดีขึ้น
"แม้ว่า 2 เดือนแรกจะมียอดผู้ป่วยเพิ่มแค่ 8% จากเป้าหมาย 11% แต่เป็นเพียง 2 เดือน เราคงต้องรอดูเหตุการณ์ในช่วงที่เหลือ ผมยังมีความหวังว่าเหตุการณ์ความรุนแรงที่ลิเบีย และตะวันออกกลางจะไม่ยืดเยื้อ แม้ว่าจะกังวลเรื่องสถานการณ์น้ำมันที่แพงขึ้นจะทำให้ต้นทุนของทุกอย่างมันแพงขึ้นทั้งหมด" นายแพทย์ปราเสริฐ กล่าว
ช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ ยอมรับว่าอัตราการใช้เตียงผู้ป่วยได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความรุนแรงและความไม่สงบกระจายไปทั่วโลก ทำให้กลุ่มผู้เดินทางท่องเที่ยว รวมถึงผู้ป่วยจากต่างประเทศต่ำกว่าคาด โดยเฉพาะปัญหาที่เกิดขึ้นในลิเบีย ซึ่งเป็นแหล่งผลิตน้ำมันใหญ่ หากมีความรุนแรงยืดเยื้อก็จะส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันและทำให้ต้นทุนธุรกิจต่าง ๆ เพิ่มสูงขึ้น ความสามารถในการใช้จ่ายลดน้อยลงไปด้วย
นอกจากนั้น ช่วงที่ผ่านมาธุรกิจโรงพยาบาลในประเทศกัมพูชา ขณะนี้ก็มียอดผู้ป่วยลดน้อยและชะลอตัวลงไป หลังจากมีเหตุการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ทำให้มีผู้เข้ามาใช้บริการโรงพยาบาลลดลง
อย่างไรก็ตาม กลุ่ม BGH ยังมีแผนที่จะขยายงานอย่างต่อเนื่องทั้งในประเทศและต่างประเทศ และยังมองโอกาสควบรวมกิจการกับโรงพยาบาลอื่นๆ ด้วย โดยภายในเดือน เม.ย.นี้จะมีการเปิดให้บริการโรงพยาบาลแห่งใหม่ที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ และเดือน ก.ค.54 จะเปิดให้บริการโรงพยาบาลใหม่ที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ขนาดไม่ใหญ่นักประมาณ 100 เตียง
บริษัทยังมีแผนจะเปิดกิจการโรงพยาบาลในเครือภายใต้แบรนด์"สมิติเวช"ที่ประเทศพม่าในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งอาจมีขนาดไมใหญ่นัก เพราะโอกาสการเติบโตของธุรกิจโรงโรงพยาบาลในพม่ายังมีแนวโน้มการเติบโตสูง เนื่องจากลูกค้าหลักในโรงพยาบาลเครือ BGH ในกรุงเทพมีกลุ่มคนพม่าเป็นลำดับต้น ๆ ของผู้ป่วยต่างชาติทีเข้ามารักษาด้วย
สำหรับความคืบหน้าในการซื้อหุ้นเครือโรงพยาบาลพญาไทและเปาโลนั้น นายแพทย์ปราเสริฐ กล่าวว่า ขณะนี้ส่งเรื่องไปยังตลาดหลักทรัพย์แล้ว คาดว่าจะใช้เวลาในการพิจารณาอนุมัติภายใน 1 เดือน คาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในเดือน เม.ย.54
ส่วนการเข้าซื้อหุ้นบมจ.โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์(BH)นั้น นายแพทย์ปราเสริฐ มองว่า เป็นการลงทุนหุ้นราคาถูก ซึ่งเมื่อผู้ถือหุ้นต่างชาติของ BH ขายหุ้นออกมา ทาง BGH จึงเข้าซื้อไว้เพราะไม่ต้องการให้หุ้นส่วนหนึ่งไปตกอยู่ในมือของต่างชาติ และยังคงให้ทาง BH ธุรกิจไปตามปกติ เพราะผลประกอบการดีอยู่แล้ว แต่อาจจะมีการส่งกรรมการไปร่วม
"หากมีโอกาสการลงทุนธุรกิจโรงพยาบาลที่น่าสนใจ ก็ยังคงมองโอกาสอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างรายได้ให้กับกลุ่ม BGH เพิ่มขึ้น แต่ก็ยังไม่ได้สรุปว่าจะใช้เงินเท่าไหร่"นายแพทย์ปราเสริฐ กล่าว