นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ (LPN) คาดว่าไตรมาส 1/54 บริษัทจะทำรายได้สูงขึ้นเป็น 2 พันล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 1.4 พันล้านบาท เนื่องจากช่วงต้นปีนี้มีการรับรู้รายได้จากโครงการของบริษัท 2 โครงการ คือ คอนโดมิเนียม พระราม 9 เฟส 2 และคอนโดมิเนียม รามอินทรา-นวมินทร์ อาคาร B
บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ในปี 55 เติบโต 20% มาที่ 1.4 หมื่นล้านบาท จากปีนี้คาดว่าจะมีรายได้ที่ 1.2 หมื่นล้านบาท และปีนี้จะมีอัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่า 30% จากปีก่อนอยู่ที่ 34%
ณ สิ้นปี 53 บริษัทมียอดขายรอโอน(backlog)มูลค่า 1.44 หมื่นล้านบาท รับรู้รายได้ปีนี้ 11,500 ล้านบาท ที่เหลือรับรู้รายได้ในปีหน้า โดยปีนี้ตั้งเป้ารายได้ที่ 1.2 หมื่นล้านบาท และยอดพรีเซล 1.6 หมื่นล้านบาท ตั้งงบลงทุนซื้อที่ดิน 2.5 พันล้านบาทใกล้เคียงปีก่อน
ในปีนี้บริษํทมีแผนเปิดโครงการใหม่ 10 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 1.6 หมื่นล้านบาท โดยมีที่ดินแล้วมูลค่า 10,690 ล้านบาท ไตรมาส 1/54 จะเปิดตัวทั้งหมด 5 โครงการ ซึ่งขณะนี้เปิดตัวไปแล้ว 3 โครงการ ส่วนไตรมาส 2/54 จะเปิดตัว 4 โครงการ และอีก 1 โครงการที่เหลือคาดว่าจะเปิดตัวในไตรมาส 3/5
นยโอภาส กล่าวว่า ปัจจัยเสี่ยงสำหรับธุรกิจในปีนี้ ได้แก่ ราคาน้ำมันสูงขึ้น ทำให้ราคาวัสดุก่อสร้างปรับตัวสูงขึ้นเช่นเดียวกัน ซึ่งขณะนี้บริษัทล็อคต้นทุนวัสดุก่อสร้างล่วงหน้าไว้บ้างแล้ว นอกจากนี้มีเรื่องแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น และอัตราเงินเฟ้อเร่งตัว มีผลต่อกำลังซื้อ
รวมทั้ง ข้อบังคับทางการ เช่น LTV ที่บริษัทไม่ได้รับผลกระทบ และกฎหมายผังเมืองที่จะมีการปรับให้มีการสร้างตึกสูงได้ในหลายพื้นที่มากขึ้น จากที่กำหนดในย่านใจกลางเมือง(CBD) ซึ่งนายโอภาส กล่าวยืนยันว่า ตลาดคอนโดมิเนียมยังเติบโตได้ตามความต้องการของครอบครัวเดี่ยวและพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป
"LPN เชื่อว่าคอนโดฯ เป็นอนาคตที่อยู่อาศัยเติบโตไปพร้อมกับการพัฒนาเมือง...ปีนี้ธุรกิจอสังหาฯไม่ได้สดใสเหมือนปีที่แล้ว สถานการณืในและต่างประเทศไม่ค่อยเอื้อ แต่ cost of living สูงขึ้นทำให้คอนโดยังเป็นที่สนใจ"นายโอภาสกล่าว