บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ประเมินหุ้น บมจ.บ้านปู (BANPU)ขณะที่มีความกังวลเกี่ยวกับการปัญหาการหยุดงานที่เหมือง Daning และคดีฟ้องร้องในโครงการหงสา ซึ่ง Thai Laos Lignite (TLL) ยื่นฟ้องจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ฉุดรั้งราคาหุ้นในระยะสั้น แต่บริษัทฯเชื่อว่าโครงการดังกล่าวจะเริ่มได้ตามกำหนดในปี 2558 เนื่องจาก Hongsa Power Co (HPC) เป็นผู้พัฒนาโครงการดังกล่าว ไม่ใช่ BANPU ดังนั้นคดีฟ้องร้องของ TLL จะไม่กระทบต่อโครงการดังกล่าว ในปี 2550
และจากสมมติฐานว่าเหมือง Daning ต้องหยุดการผลิตเป็นระยะเวลา 6 เดือน เราทำหารปรับลดประมาณการกำไรของเรา 7.4% เหลือ 17.3 พันล้านบาท และลดราคาเป้าหมายลงเหลือ 920 บาท
อย่างไรก็ดี จากมุมมองเชิงบวกต่อตลาดถ่านหิน คาดว่ากำไรของเรามีโอกาสจะสูงกว่าคาดจากราคาขายเฉลี่ยที่สูงเกินคาดและคงแนะนำ"ซื้อ"โดยด้านดีตลาดถ่านหินยังมีแนวโน้มเป็นบวกและราคาขายเฉลี่ยของ BANPUในปี 2554 ควรจะยังอยู่ที่ US$90 ต่อตัน (+20.5%) เป็นอย่างน้อย และน่ามากพอที่จะชดเชยกับต้นทุนน้ำมันดีเซลที่สูงขึ้น
บล.กสิกรไทย ยังคงคำแนะนำ Buy ราคาพื้นฐาน 940 บาท คาดว่าตลาดจะมีความกังวลต่อผลประกอบการปี 54 ของBANPU ซึ่งเป็นปีที่มีค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นจากราคาน้ำมันและต้นทุนในการดำเนินงาน โดยคาดว่า Consensus จะปรับประมาณการกำไรปี 54 ลดลงมาอยู่ที่ 19-20 พันล้านบาท ขณะที่เราประมาณการกำไรของ BANPU ปี 54แบบ Conservative ที่ 16.2พันล้านบาท (-34%YoY)
ส่วนคดีความที่ Hongsa นั้น BANPU คาดว่าจะได้ข้อสรุปราวปี 55-56 ซึ่งเชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาโรงไฟฟ้า Hongsa ขนาด 1,878 MW
นอกจากนี้ การหยุดดำเนินงานของเหมืองที่ Daning คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในเดือนนี้ โดยทาง BANPU คาดว่าจะได้ผลสรุปออกมาในเชิงบวก (เหมืองแห่งนี้สร้างรายได้ให้แก่ BANPU ปีละ 3 พันล้านบาท) ซึ่งเรามองว่าจะเป็นปัจจัยบวกระยะสั้น