น.ส.โศภชา ดำรงปิยวุฒิ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง (GUNKUL) คาดว่า ในปี 54 รายได้จะเติบโต 90% จากปี 53 ที่มีรายได้ 1.3 พันล้านบาท เนื่องจากบริษัทจะมีการรับรู้รายได้จากธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ ซึ่งมีกำลังการผลิต 30.9 เมกะวัตต์เข้ามาเป็นปีแรก ขณะที่รายได้จากการขายอุปกรณ์สำหรับระบบไฟฟ้าและระบบพลังงานทดแทนจะเติบโต 80% จากปีก่อนที่มีรายได้ 600 ล้านบาท
ทั้งนี้บริษัทอยู่ระหว่างการเจรราจาเพื่อหาผู้ร่วมทุนก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์กำลังการผลิตรวม 26 เมกกะวัตต์ ซึ่งบริษัทที่เจราจาอยู่เป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เช่นเดียวกัน โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในเดือนเม.ย.-พ.ค นี้ โดยโครงการดังกล่าวมีมูลค่ารวม 2.7 พันล้านบาท ซึ่งเงินลงทุนจะมาจากรายได้การจากดำเนินงานของบริษัทและของผู้ร่วมทุน
การก่อสร้างจะแบ่งเป็น 4 แห่ง แห่งละ 6.5 เมกกะวัตต์ ซึ่งขณะนี้มีที่ดินแล้วอยู่ที่จังหวัดนครสวรรค์ 2 โรง ปทุมธานี 1 โรง และชัยนาท 1 โรง ทั้งนี้เชื่อว่าผลตอบแทนจากการลงทุน(IRR) จะไม่น้อยกว่า 10% ซึ่งบริษัทต้องการที่จะมีอำนาจในการบริหารงาน โดยจะถือหุ้นในอัตราที่มากกว่า 50%
"ปีนี้รายได้จะเติบโตถึง 90% เพราะจะมีรายได้จากธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ซึ่งจะรับรู้เป็นปีแรก ส่วนอัตรากำไรสุทธิก็จะเติบโตมากกว่าปีก่อนที่อยู่ที่ระดับ 8-10% เนื่องจากธุรกิจโรงไฟฟ้า มีอัตรากำไรขั้นต้นและอัตรากำไรสุทธิสูง"น.ส.โศภชา กล่าว