นายชนินท์ ว่องกุศลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บ้านปู (BANPU) คาดว่ารายได้จากการขายรมในปี 54 เติบโตประมาณ 40% หรือเพิ่มเป็น 9 หมื่นล้านบาท จาก 6.5 หมื่นล้านบาท เนื่องจากประเมินว่าปริมาณการผลิตและขายถ่านหินในปีนี้จะเพิ่มมาอยู่ที่ประมาณ 44-45 ล้านตัน จาก 25.9 ล้านตันในปี 53
ทั้งนี้ ปริมาณถ่านหินจะมาจากแหล่งเหมืองในอินโดนีเซียประมาณ 26 ล้านตัน และจากเหมืองในออสเตรเลียประมาณ 18-19 ล้านตัน หลังการเข้าซื้อกิจการบริษัท Cotennail Coal ในออสเตรเลีย
ขณะที่บริษัทคาดว่าราคาขายถ่านหินเฉลี่ยในปีนี้จะสูงกว่า 80 เหรียญสหรัฐ/ตัน จากปีก่อนที่มีราคาขาย 76.65 เหรียญสหรัฐ/ตัน เนื่องจากราคาถ่านหินในตลาดภูมิภาคยังอยู่ในภาวะที่ดีต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา และความต้องการใช้ถ่านหินยังคงอยู่ในระดับสูงเช่นกัน
แผนลงทุนในปี 54 ได้เตรียมเงินลงทุน 140 ล้านเหรียญ แบ่งเป้นการลงทุนในอินโดนีเซีย 120 ล้านเหรียญ ส่วนใหญ่จะใช้ในการพัฒนาเหมืองบารินโต และเหมืองทรูบาอินโด และที่เหลืออีก 20 ล้านเหรียญจะใช้สำหรับเป็นงบงวดสุดท้ายในการพัฒนาเหมืองเกาเหอในจีน ซึ่งจะมีกำหนดเริ่มการผลิตเชิงพาณิชย์ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้
สำหรับอัตราการเติบโตของ BANPU ในช่วง 5 ปีข้างหน้า (54-58) คาดว่าจะมีอัตราเฉลี่ยประมาณ 12-13% ต่อปี โดยรวมแผนกลยุทธ์ระยะยาวที่เน้นธุรกิจถ่านหินมากขึ้น
นายชนินทน์ กล่าวว่า บริษัทได้ยื่นขออนุญาตต่อสำนักคณะกรรมการกำหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) เพื่อออกหุ้นกู้ชุดใหม่ อายุ 7 ปี, 10 ปี และ 12 ปี รวมมูลค่า 1.5 หมื่นล้านบาท เพื่อนำไปชำระคืนเงินกู้สถาบันการเงิน และใช้ในการลงทุน รวมทั้งใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน โดยจะเสนอขายหุ้นกู้ดังกล่าวให้กับนักลงทุนทั่วไป ผู้ลงทุนสหกรณ์ และสถาบัน