พีทีที อินเตอร์ฯ ย้ำบ.ร่วมทุนไม่ได้รับความเสียหายท่อก๊าซอียิปต์ระเบิด ก.พ.54

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday March 4, 2011 18:54 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองกรรมการผู้จัดการด้านพัฒนาธุรกิจบริษัท พีทีที อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เปิดเผยถึงกรณีการลงทุนในโครงการท่อก๊าซอียิปต์ว่า ปตท.ใช้เวลาในการศึกษาข้อมูลการลงทุนนานกว่า 8 เดือนเพื่อศึกษาปัจจัยในด้านต่างๆ รวมถึงอุปสงค์และอุปทานของก๊าซ ศักยภาพในการขยายตลาดในอนาคต การส่งเสริมธุรกิจของบมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม(PTTEP)ในกรณีที่สามารถพัฒนาแหล่งก๊าซได้เพิ่มเติม อีกทั้งได้วิเคราะห์ความเป็นไปได้ทางเทคนิค ความเสี่ยงเชิงนโยบายระหว่างประเทศ และความเสี่ยงด้านอื่นๆ และเห็นว่าเป็นโครงการที่เหมาะสม

สำหรับ บริษัท East Mediterranean Gas (EMG) เป็นบริษัทดำเนินธุรกิจท่อส่งก๊าซธรรมชาติ ก่อตั้งขึ้นภายใต้สนธิสัญญาสันติภาพ และภายใต้ MOU เรื่องการซื้อและการลำเลียงก๊าซผ่านระบบท่อระหว่างรัฐบาลอียิปต์และรัฐบาลอิสราเอล โดย EMG เป็นผู้ซื้อก๊าซธรรมชาติจากอียิปต์ เพื่อขายให้โรงไฟฟ้าและอุตสาหกรรมในอิสราเอล และได้วางท่อส่งก๊าซฯ ทางทะเลความยาวประมาณ 90 ก.ม. จากเมือง Al-Arish ประเทศอียิปต์ไปยังเมือง Ashkelon ประเทศอิสราเอล

นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาได้มีข่าวเกี่ยวกับเหตุระเบิดท่อก๊าซที่ Al-Arish ซึ่งในข้อเท็จจริงนั้นคือท่อของบริษัทก๊าซธรรมชาติแห่งชาติของอียิปต์ EGAS อยู่ห่างจากท่อของ EMG ประมาณ 30 กิโลเมตร อย่างไรก็ดี เพื่อความปลอดภัย EMG ได้ทำการหยุดส่งก๊าซเป็นการชั่วคราวในระหว่างที่ EGAS ปิดระบบเพื่อทำการซ่อมแซม ซึ่งเมื่อการซ่อมแซมของ EGAS ดำเนินการแล้วเสร็จ ทาง EMG ก็จะทำการเพิ่มปริมาณจัดส่งก๊าซเพื่อทดแทนปริมาณที่ขาดหายไป จึงไม่ส่งผลกระทบอย่างมีสาระสำคัญแต่อย่างใด ซึ่งคาดว่าจะสามารถเริ่มจัดส่งก๊าซได้อีกครั้งในเร็ววันนี้

อนึ่ง พีทีที อินเตอร์ฯ เป็นบริษัทย่อยที่ ปตท. ถือหุ้น 100% ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2550 โดยมีวัตถุประสงค์ในการลงทุนในต่างประเทศ เพื่อสร้างความชัดเจนให้แก่นักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ต่อโครงสร้างการลงทุนของกลุ่ม ปตท. และเพื่อเป็นหน่วยงานสำคัญในการขยายการลงทุนไปยังต่างประเทศของปตท. ในอนาคต

นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า พีทีที อินเตอร์ฯ เพิ่งก่อตั้งได้เพียง 3 ปี โครงการต่างๆ ที่ได้ลงทุนไปก็เริ่มมีผลกำไรเช่น EMG ก็เริ่มมีผลกำไรในปี 2553 และคาดว่าจะค่อยๆ เพิ่มขึ้นตามลักษณะของธุรกิจประเภทนี้

สำหรับผลประกอบการของ พีทีที อินเตอร์ฯ ในปี 2553 นั้นขาดทุนประมาณ 2,500 ล้านบาท เนื่องมาจากภาระดอกเบี้ยที่ชำระให้กับ ปตท. และผลของค่าเงินบาทที่แข็งขึ้นประมาณ 10% ในช่วงปีที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันได้มีมาตรการรองรับความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนในอนาคตเป็นที่เรียบร้อย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ