ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดร่วง 88.32 จุดหลังราคาน้ำมันพุ่งแรง

ข่าวหุ้น-การเงิน Saturday March 5, 2011 07:15 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (4 มี.ค.) หลังจากราคาน้ำมันดิบ NYMEX พุ่งขึ้นกว่า 2 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นผลมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์รุนแรงในลิเบีย นอกจากนี้ การพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันดิบยังบดบังตัวเลขจ้างงานที่เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งของสหรัฐ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วงลง 88.32 จุด หรือ 0.72% ปิดที่ 12,169.88 จุด ดัชนี s&P 500 ขยับลง 9.82 จุด หรือ 0.74% ปิดที่ 1,321.15 จุด และดัชนี Nasdaq ร่วงลง 14.07 จุด หรือ 0.50% ปิดที่ 2,784.67 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกน้อยกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 2 ต่อ 1

ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงหลังจากราคาน้ำมันดิบ NYMEX พุ่งขึ้นกว่า 2 ดอลลาร์ แตะระดับกว่า 100 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อคืนนี้ เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดทางการเมืองในลิเบีย โดยมีรายงานว่าได้มีการปลุกระดมมวลชนทั้งในฝั่งของกลุ่มผู้สนับสนุนและกลุ่มผู้ต่อต้านพันเอกมูอัมมาร์ กัดดาฟี ให้ออกมาชุมนุมประท้วงจนเป็นเหตุให้เกิดการปะทะกันอย่างรุนแรง

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ราคาน้ำมันได้ปรับตัวลดลงและช่วยหนุนตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นด้วย หลังจากสำนักข่าวอัลจาซีรารายงานว่า กัดดาฟีได้ยอมรับข้อเสนอการไกล่เกลี่ยของนายฮูโก ชาเวซ ผู้นำเวเนซูเอล่า เพื่อโน้มน้าวให้ผู้นำลิเบียและกองกำลังฝ่ายค้านสามารถบรรลุข้อตกลงกันได้ แต่หลังจากนั้นราคาน้ำมันได้พุ่งขึ้นอีกเมื่อมีรายงานว่า กองกำลังฝ่ายค้านปฏิเสธการเจรจาดังกล่าว

การพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันดิบได้ส่งผลบดบังรายงานของกระทรวงแรงงานสหรัฐที่ระบุว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (nonfarm payroll) เดือนก.พ.พุ่งขึ้น 192,000 ตำแหน่ง ซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้นรวดเร็วที่สุดในรอบเกือบ 1 ปี และมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ 185,000 ตำแหน่ง

ส่วนอัตราว่างงานเดือนก.พ.ลดลงแตะระดับ 8.9% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 2 ปี และตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 9.1%

ตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา วิกฤตการณ์ทางการเมืองในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือได้ฉุดดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงราว 0.3% ขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าวิกฤตการณ์ดังกล่าวอาจกดดันตลาดหุ้นนิวยอร์กต่อไปจนถึงสัปดาห์หน้า

หุ้นกลุ่มการเงินร่วงลงกว่า 1.3% โดยหุ้นซิตี้กรุ๊ปปิดร่วง 3% และหุ้นโกลด์แมน แซคส์ ปิดร่วง 2.1% หลังจากนักวิเคราะห์ของแบงก์ ออฟ อเมริกา ปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการของซิตี้กรุ๊ปและโกลด์แมน แซคส์ โดยคาดว่าเหตุการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางอาจทำให้นักลงทุนสถาบันระมัดระวังการลงทุน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อรายได้จากการซื้อขายหุ้นของซิตี้กรุ๊ปและโกลด์แมน แซคส์ด้วย

หุ้นวอล-มาร์ท ซึ่งเป็นห้างค้าปลีกรายใหญ่ของโลก ปิดบวก 0.1% หลังจากบริษัทประกาศเพิ่มการจ่ายเงินปันผลรายปี


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ