ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (4 มี.ค.) หลังจากประธานธนาคารกลางยุโรปส่งสัญญาณว่าอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า หลังจากเงินเฟ้อในยูโรโซนพุ่งขึ้นสูงกว่าเป้าหมายของธนาคารกลาง นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังได้รับแรงกดดันจากสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีร่วงลง 47.06 จุด หรือ 0.65% ปิดที่ 7178.90 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสร่วงลง 40.55 จุด หรือ 1% ปิดที่ 4020.21 จุด
ดัชนี FTSEurofirst 300 ซึ่งเป็นดัชนีหุ้นกลุ่มบลูชิพในตลาดหุ้นยุโรป ร่วงลง 0.6% แตะที่ 1,148.53 จุด
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดร่วง 0.6% แตะที่ 281.9 จุด
ตลาดหุ้นยุโรปร่วงลงเนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับต้นทุนการกู้ยืมที่อาจปรับตัวสูงขึ้น หลังจากนายฌอง-คล้อด ทริเชต์ ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) กล่าวว่า อีซีบีอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า หลังจากดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในยูโรโซนพุ่งขึ้น 2.4% ในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งสูงกว่าระดับเป้าหมายของอีซีบีที่ 2%
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังได้รับแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์รุนแรงในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ ซึ่งบดบังตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนก.พ.ที่พุ่งขึ้นเกินคาด 192,000 ตำแหน่ง และอัตราว่างงานเดือนก.พ.ลดลงแตะระดับ 8.9% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 2 ปี
หุ้นคาร์ฟูร์ เอสเอ บริษัทค้าปลีกรายใหญ่ของฝรั่งเศสร่วงลง 4.4% หุ้นเครดิต อะกริโคล เอสเอ ปิดร่วง 1% หุ้นแอร์เมส อินเตอร์เนชันแนล ปิดบวก 0.4% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรปี 2553 พุ่งขึ้น 46% เพราะได้แรงหนุนจากยอดขายที่แข็งแกร่งในประเทศจีน
หุ้นเซอร์โก ปิดบวก 4.6% หลังจากแบงก์ ออฟ อเมริกัน ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าวขึ้นสู่ระดับ “buy” จากระดับ “neutral”
หุ้นสายการบินดอยช์ ลุฟฮันซา เอจี ปิดร่วง 2% เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับราคาเชื้อเพลิงที่สูงขึ้น ส่วนหุ้นแฮนโนเวอร์ รี ซึ่งเป็นบริษัทประกันของเยอรมนี ปิดบวก 1.8%