นายสุทธิรักษ์ เสถียรภาพอยุทธ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ. ธนาสิริ กรุ๊ป (THANA) เปิดเผยว่า ในปี 54 บริษัทเตรียมเปิดโครงการใหม่อีก 5 โครงการร คือที่ จ.นนทบุรี 3 โครงการและ จ. ภูเก็ตอีก 2 โครงการ มูลค่ารวม 2,088 ล้านบาท และตั้งเป้ามียอดขายเติบโต 20-25% มาที่ 1.1-1.2 พันล้านบาท
กลยุทธ์สร้างความแข็งแกร่งของบริษัทฯ ในปี 54 ยังคงเน้นย้ำจุดแข็งของบริษัท เพื่อสร้างการเติบโตและความแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นการพัฒนาโครงการในทำเลจังหวัดนนทบุรี และภูเก็ต ด้วยขนาดโครงการที่ไม่ใหญ่ ในทำเลที่สะดวกต่อการเดินทาง แบบบ้าน ฟังก์ชั่นการใช้งาน และภาพลักษณ์โครงการที่โดดเด่นและแตกต่าง ในราคาที่คุ้มค่า มีการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยระบบ On-line ในทุกโครงการ และยังมีที่ดินเปล่ารอการพัฒนา ณ สิ้นปี 53 มูลค่า 103 ล้านบาท ขณะที่มีมูลค่าตามราคาประเมิน 716 ล้านบาท
สำหรับ 5 โครงการใหม่ที่จะเปิดในปีนี้ ประกอบด้วย โครงการ เดอะ คลัสเตอร์วิลล์ 4 ราชพฤกษ์-สิรินธร ขนาดโครงการ 31 ไร่ รายละเอียดโครงการ บ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวโฮม กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย คือ กลุ่มลูกค้าที่มีรายได้ค่อนข้างสูง B+, A ระดับราคาขายเฉลี่ย 3.5 ล้านบาทต่อหลัง มูลค่าโครงการ 623 ล้านบาท จุดเด่นโครงการคือ บ้านเดี่ยวและทาวโฮมสไตล์โมเดิร์นดีไซน์อิสระในสังคม Exclusive คาดว่าจะเปิดโครงการในไตรมาส 3/54
โครงการ ธนาสิริ ท่าน้ำนนท์ ที่อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี ขนาดพื้นที่ของโครงการ 29 ไร่ ลักษณะบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด กลุ่มลูกค้าที่มี่รายได้ค่อนข้างสูง B+, A ระดับราคาขายเฉลี่ย 4.5 ล้านบาท/หลัง มูลค่าโครงการ 675 ล้านบาท จุดเด่นโครงการ ทำเลติดถนน / ออกแบบเพื่อให้เกิดบรรยากาศของสังคมอยู่อาศัยที่ดี คุ้มค่ากับฟังก์ชั่นและวัสดุเกรด A คาดว่าจะเปิดโครงการในไตรมาส 4/54
โครงการ ไพร์มเพลส แก้วอินทร์ ที่ตั้งโครงการ อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี ขนาดพื้นที่ของโครงการ 35 ไร่ รูปแบบบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย กลุ่มลูกค้าผู้เริ่มต้นชีวิตครอบครัวที่มีรายได้ปานกลาง C+, B ระดับราคาขายต่อหลัง เฉลี่ย 2.5 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 500 ล้านบาท จุดเด่นโครงการ บ้านเดี่ยวและบ้านแฝดดีไซน์ใหม่ คาดว่าจะเปิดโครงการประมาณปลายปี 54
โครงการไพร์มเพลส เนรมิต-อนุสาวรีย์ 4 ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ขนาดโครงการ 1 ไร่ โดยพัฒนาเป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น และทาวน์โฮม 3 ชั้น รวม 12 ยูนิต กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย กลุ่มลูกค้าผู้เริ่มต้นชีวิตครอบครัวที่มีรายได้ปานกลาง C+, B ระดับราคาขายต่อหลัง 2.5 - 4.5 ลบ. มูลค่าโครงการ 48 ลบ. จุดเด่นโครงการ ด้านหน้าโครงการริมถนนป่าคลอก ใกล้แหล่งชุมชน บนทำเลการค้าที่มีศักยภาพ คาดว่าจะเปิดโครงการในไตรมาส 2/54
โครงการสิริวิลเลจ ภูเก็ต-อนุสาวรีย์ ที่ตั้งโครงการ ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ขนาดโครงการ 12 ไร่ รายละเอียดโครงการ อาคารพาณิชย์ บ้านเดี่ยวและบ้านแฝด 2 ชั้น กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย กลุ่มลูกค้าผู้เริ่มต้นชีวิตครอบครัวที่มีรายได้ปานกลาง C+, B ระดับราคาขายต่อหลัง เฉลี่ย 3.0 ลบ. มูลค่าโครงการ 242 ลบ. จุดเด่นโครงการ ออกแบบเพื่อให้เกิดบรรยากาศของสังคมอยู่อาศัยดี เพียบพร้อมไปด้วยระบบสาธารณูปโภค คาดว่าจะเปิดโครงการในไตรมาส 3/54
นายสุทธิรักษ์ กล่าวว่า ยอดขายในปีนี้มาจากโครงการที่เหลือขายในปีนี้ประมาณ 800-900 ล้านบาท จากมูลค่าโครงการรวม 1,314 ล้านบาท และยังมีโครงการที่จะเปิดใหม่ในปีนี้ประมาณ 300 ล้านบาท ขณะที่มูลค่ายอดขายรอโอน(backlog) ณ สิ้นปี 53 อยู่ที่ 140 ล้านบาท คาดว่าจะรับรู้ในช่วงไตรมาส 1/54 ประมาณ 80% ส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้ทั้งหมดภายในปีนี้
ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้ายอดพรีเซลในปีนี้ที่ 1,150-1,250 ล้านบาท จะมาจากโครงการเก่า 80% ส่วนที่เหลือเป็นโครงการใหม่ที่จะเปิดในปีนี้ ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นคาดว่าจะอยู่ที่ 31.5-32.5% ขณะที่กำไรสุทธิ 9.5-10%
ขณะที่ยอดรับรู้รายได้ในช่วงไตรมาส 1/54 จะลดลงประมาณ 20% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 241 ล้านบาท เนื่องจากไม่มีการเปิดโครงการใหม่ในช่วงนี้ ประกอบกับสิทธิประโยชน์จากมาตรการภาษีกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ได้หมดไปตั้งแต่ปีก่อน
“ไตรมาส 1/54 ยอดรับรู้รายได้จะลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เพราะไม่มีโครงการใหม่เข้ามา มีเพียงโครงการเก่าทีเปิดตัวไปในช่วงปีก่อน อย่างโครงการคลัสเตอร์วิลล์ 2 และ 3 ที่เราเปิดขายเมื่อช่วงปลายปี ตอนแรกก็ตั้งใจว่ายอดขายจะเข้ามามากในปีนี้ แต่ปรากฏว่ากลับขายดีทำให้สินค้าเหลือน้อย ปัจจุบันลูกค้าก็กำลังรอดูในหลายๆเรื่อง อย่างราคาน้ำมันตอนนี้ก็ปรับตัวขึ้นเยอะ แต่เชื่อว่ารายได้จะเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆช่วงไตรมาส 2 ที่จะเริ่มมีการเปิดโครงการใหม่ และจะดีมากๆในช่วงไตรมาส 3 และ 4"นายสุทธิรักษ์ กล่าว
บริษัทตั้งงบในการซื้อที่ดินในปี 54 ที่ 1.2 พันล้านบาท เบื้องต้นคาดว่าจะใช้ซื้อที่ดินประมาณ 2-3 แปลง ในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และภูเก็ต แต่ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจในช่วงนั้นๆด้วย ซึ่งจะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ ดูทั้งสถานการณ์และความต้องการของตลาดที่แท้จริง
"ปีนี้บอร์ดก็อนุมัติงบซื้อที่ดินไว้ 1.2 พันล้านบาท ซึ่งเราก็พร้อมซื้อทุกเมื่อ ตอนแรกช่วงไตรมาส 1 ก็จะซื้ออีก 1-2 แปลง แต่ก็ขอชะลอออกไปก่อนดูความชัดเจนไปก่อน ก็ต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในช่วงนั้นๆด้วย"นายสุทธิรักษ์ กล่าว