กลุ่ม SALEE ทยอยปรับขึ้นราคาสินค้าตั้งแต่ต้นปีตามวัตถุดิบพุ่ง 10-30%

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday March 7, 2011 14:55 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสาทิส ตัตวธร กรรมการผู้จัดการ บมจ.สาลี่อุตสาหกรรม(SALEE)เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า นับตั้งแต่ต้นปีนี้(54)ถึงปัจจุบัน บริษัทได้ทยอยปรับขึ้นราคาขายสินค้าให้แก่ลูกค้า เพื่อให้เป็นไปตามราคาวัตถุดิบที่ขยับตัวขึ้นไป โดยเฉพาะราคาเม็ดพลาสติก และแผ่นพลาสติกต่างๆ ปรับตัวขึ้นสูงมากถึงกว่า 10-30% แล้ว ขึ้นอยู่กับประเภทของแต่ละวัตถุดิบ ซึ่งเป็นไปตามภาวะราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นแรง

"ราคาวัตถุดิบตอนนี้ขึ้นมาสูงมาก พวกเม็ดพลาสติก, แผ่นพลาสติก ต้นทุนขยับขึ้นไป 10 กว่าเปอร์เซนต์แล้ว วัตถุดิบบางอย่างต้นทุนขึ้นไปถึง 30 เปอร์เซนต์ก็มี เราก็เลยต้องทยอยปรับราคาสินค้าขึ้น ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาก็ปรับขึ้นไป 3 ครั้งแล้ว ตามต้นทุนวัตถุดิบที่ขึ้นสูง ซึ่งลูกค้าก็เข้าใจและยอมรับได้ แต่ก็ถือว่าช่วยกันประคับประคองกันไป"นายสาทิส กล่าว

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าต้นทุนวัตถุดิบจะปรับตัวขึ้นสูง แต่บริษัทก็ยังสามารถประคองอัตรากำไร(มาร์จิ้น)ไว้ได้ เพราะบริษัทลดค่าใช้จ่ายด้านอื่นลง ดังนั้น จึงเชื่อว่าในไตรมาส 1/54 บริษัทฯก็ยังมีผลกำไรอยู่

ด้านนายขวัญชัย ณัฎฐ์เศรษฐ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.สาลี่คัลเล่อร์ ในเครือ SALEE เปิดเผยว่า ต้องยอมรับต้นทุนวัตถุดิบปรับตัวสูงขึ้น แต่บริษัทฯก็มีการปรับราคาสินค้าตามรอบราคาวัตถุดิบที่สูงขึ้น อย่างเม็ดพลาสติก หรือแม่สีราคาสูงขึ้นไปถึง 30% แล้ว เพราะราคาอิงตามราคาน้ำมันและปิโตรเคมี ซึ่งบริษัทฯก็ได้มีการพูดคุยกับลูกค้าถึงการปรับขึ้นราคาสินค้า ลูกค้าก็เข้าใจเป็นอย่างดี

"การปรับราคาจากต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น ถ้ามองให้ดีอีกทีก็เป็นการเสริมกำไรได้อีกทาง เพราะปกติไตรมาส 1 ของทุกปีบริษัทฯจะประสบปัญหาค่าใช้จ่ายสูง รายรับไม่ cover แต่คาดว่าไตรมาส 1 ปีนี้(54)บริษัทฯน่าจะได้เห็นกำไรที่ดีได้"นายขวัญชัย กล่าว

นายขวัญชัย กล่าวต่อว่า คำสั่งซื้อและปริมาณการผลิตของบริษัทฯขณะนี้ทำเต็มกำลังการผลิตแล้ว ตั้งแต่เดือน ม.ค.-ก.พ.54 ทำกันเต็มกำลังการผลิต แต่ก็ยังมีคำสั่งซื้อค้างอยู่ ผลิตได้ไม่ทัน ดังนั้น ในช่วงสงกรานต์นี้บริษัทฯคงจะต้องมีการเดินเครื่องทำงาน จากปกติจะมีการหยุดทำงาน ซึ่งตรงนี้ก็มีพนักงานให้ความสมัครใจที่ทำงานกันในช่วงสงกรานต์ด้วย

*SALEE รับหุ้นไม่ค่อยมีการเทรด เหตุผถห.กำไว้แน่นรอรับปันผลสูง

กรรมการผู้จัดการ SALEE กล่าวว่า สภาพคล่องของหุ้น SALEE ก็ต้องยอมรับไม่ค่อยมีการเทรดสักเท่าไร เนื่องจากไม่มีผู้ถือหุ้นยอมปล่อยหุ้นออกมาเลย คงเพราะต้องการถือหุ้นเพื่อรอรับเงินปันผล ซึ่งบริษัทฯก็มีการจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่า 5% ในทุกปีที่ผ่านมา และผลการดำเนินงานของปี 53 บริษัทฯก็จ่ายเงินปันผล 30 ตังค์ คิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลประมาณ 7% ก็ถือว่าให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าฝากเงินไว้ที่แบงก์

"หุ้นที่มีอยู่ในตลาดฯก็คิดว่ามีไม่ถึง 3-5 ล้านหุ้น ที่ไม่ค่อยมีการเทรด เพราะไม่มีใครยอมปล่อยหุ้นออกมาเลย ไม่มีกลุ่มไหนยอมปล่อย เพราะถือไว้กินเงินปันผลดีกว่า เพราะบริษัทจ่ายไม่ต่ำกว่า 5% ทุกปี และปีที่แล้ว(53)บริษัทฯก็ยังจ่าย 30 ตังค์ คิดเป็นประมาณ 7% ผลตอบแทนมันดีกว่าฝากแบงก์ ก็เลยไม่มีใครยอมปล่อย"กรรมการผู้จัดการ SALEE กล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ