ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (7 มี.ค.) เนื่องจากความกังวลที่ว่าราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องอาจจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ นอกจากนี้ บรรยากาศการซื้อขายในตลาดยังได้รับแรงกดดันจากสถานการณ์ตึงเครียดในลิเบีย หลังจากมีรายงานว่า กองกำลังสนับสนุนพันเอกมูอัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำลิเบีย ยังคงเดินหน้าโจมตีกลุ่มผู้ประท้วง
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดลบ 79.85 จุด หรือ 0.66% แตะที่ 12,090.03 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดลบ 11.02 จุด หรือ 0.83% แตะที่ 1,310.13 จุด และดัชนี Nasdaq ร่วงลง 39.04 จุด หรือ 1.40% ปิดที่ 2,745.63 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วน 3 ต่อ 1
ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบ NYMEX ที่พุ่งขึ้นแตะระดับกว่า 105 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อคืนนี้ หลังจากสถานการณ์ความไม่สงบในลิเบีย ซึ่งทำให้เกิดความวิตกกังวลว่าราคาน้ำมันที่สูงขึ้นอาจส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ เพราะจะทำให้ต้นทุนการผลิตและการขนส่งสูงขึ้นด้วย
ความวิตกกังวลเกี่ยวกับพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันดิบได้บดบังปัจจัยบวกจากรายงานของคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด ที่ระบุว่า ดัชนีแนวโน้มการจ้างงานเดือนก.พ.ของสหรัฐ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.7% สู่ระดับ 101.7 จุด จากเดือนม.ค.ที่ระดับ 100.1 จุด ทำสถิติเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่
นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากข่าวที่ว่ามูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือพันธบัตรรัฐบาลกรีซลงอีก 3 ขั้นสู่ระดับ B1 จากระดับ Ba1 เนื่องจากวิตกว่ารัฐบาลกรีซอาจจะต้องดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้มูลค่ามหาศาล
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่คำนวณในดัชนี Nasdaq ร่วงลงอย่างหนัก หลังจากนักวิเคราะห์ของเวล์ส ฟาร์โก ได้ปรับลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นกลุ่มผู้ผลิตเซมิคอนดัคเตอร์
อย่างไรก็ตาม หุ้นเวสเทิร์น ดิจิตอล คอร์ป ซึ่งเป็นผู้ผลิตฮาร์ดดิสก์รายใหญ่ของโลก ปิดพุ่ง 15.6% หลังจากบริษัทตกลงซื้อธุรกิจผลิตฮาร์ดดิสก์ของฮิตาชิ มูลค่า 4.3 พันล้านดอลลาร์ในรูปเงินสดและหุ้น
ส่วนหุ้นสตาร์บั๊คปิดบวก 1.4% หลังจากซีอีโอของสตาร์บั๊คเปิดเผยกับวอลล์สตรีท เจอร์นัลว่า บริษัทเตรียมหาลู่ทางที่จะซื้อหุ้นในบริษัทอื่น ขณะที่หุ้นแมคโดนัลด์ปิดบวก 0.3% และหุ้นอัลโค อิงค์ ปิดร่วงเกือบ 2%
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันพุธ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลสต็อกสินค้าภาคค้าส่งเดือนม.ค. วันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, กระทรวงพาณิชย์จะเปิดเผยข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนม.ค. และกระทรวงการคลังเปิดเผยงบประมาณของรัฐบาลกลางเดือนก.พ.
ส่วนวันศุกร์ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนก.พ. และตัวเลขสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนม.ค.