นายปฏิภาณ สุคนธมาน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการเงินและบัญชี บมจ.ปตท เคมิคอล(PTTCH) คาดว่า รายได้และกำไรในไตรมาส 1/54 จะสูงกว่าไตรมาส 1/53 เนื่องจากราคาผลิตภัณฑ์ดีขึ้น โดยเฉพาะเม็ดพลาสติก HDPE ประกอบกับ บริษํทมีกำลังการผลิตใหม่เข้ามา ทั้งโอเลฟินส์และเม็ดพลาสติก LDPE
"รายได้และกำไรในไตรมาสแรกนี้ดีขึ้นมาก ราคาผลิตภัณฑ์ดีขึ้นกว่าที่คาดไว้ ...เราคิดว่า EBITDA Margin ในไตรมาสนี้จะอยู่ประมาณ 20% ใกล้เคียงกับไตรมาส 1 ปีก่อน แต่ปีนี้วอลุ่มเราเพิ่มขึ้นมา" นายปฏิภาณ กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"
แต่ในช่วงไตรมาส 2/54 ยังไม่แน่ใจว่าราคาผลิตภัณฑ์จะยังคงดีอย่างต่อเนื่องหรือไม่ เนื่องจากว่าจะมีกำลังการผลิตใหม่อีก 5 แสนตันทยอยเข้ามาในตลาดโลก และช่วงไตรมาส 2 ของปีปกติจะมียอดขายจะลดลงจากไตรมาสแรกด้วย
ส่วนการควบรวมกิจการกับ บมจ.ปตท..อะโรเมติกส์และการกลั่น(PTTAR) จะเกิดการ Synergy ร่วมกัน ส่งผลให้ EBITDA เพิ่มขึ้นอีก 80-150 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี รวมทั้งบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ทั้ง S&P , มูดี้ส และ ฟิทช์ ปรับอันดับความน่าเชื่อถือหลังบริษัทควบรวมกับ PTTAR เป็นไปในทิศทางบวก เพราะมี Financial Ratio ดีขึ้น
บริษัทยังอยู่ระหว่างหาวงเงินกู้ 1.7 หมื่นล้านบาทเพื่อนำไปรีไฟแนนซ์หนี้ โดยเฉพาะเพื่อกระจายความเสี่ยงการคืนเงินกู้ ขณะที่ PTTAR ได้จัดวงเงิน Revolving เตรียมไว้ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน ทำให้ฐานะการเงินเมื่อรวมกันเป็นบริษัทใหม่ไม่มีปัญหาในอนาคต