ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กวิตกสถานการณ์ราคาน้ำมัน ฉุดดาวโจนส์ปิดลบ 1.29 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday March 10, 2011 06:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (9 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่เคลื่อนไหวอยู่เหนือระดับ 104 ดอลลาร์/บาร์เรล อย่างไรก็ตาม ดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นในกรอบจำกัดเพราะตลาดได้แรงหนุนจากรายงานสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกินคาด

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดลบ 1.29 จุด หรือ 0.01% แตะที่ 12,213.09 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดลบ 1.80 จุด หรือ 0.14% แตะที่ 1,320.02 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดลบ 14.05 จุด หรือ 0.51% แตะที่ 2,751.72 จุด

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กยังคงถูกกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่เคลื่อนไหวเหนือระดับ 104 ดอลลาร์/บาร์เรล อันเนื่องมาจากสถานการณ์รุนแรงทางการเมืองในลิเบียและตะวันออกกลาง ซึ่งทำให้เกิดความกังวลว่า ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นจะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจ

สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐ (EIA) ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกในปีนี้เป็น 102 ดอลลาร์/บาร์เรลในปี เนื่องจากเหตุการณ์ความไม่สงบในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ ซึ่งตัวเลขดังกล่าวสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ประมาณ 9 ดอลลาร์/บาร์เรล

ขณะที่นายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน ซีอีโอของบริษัทเอ็กซอนโมบิล คอร์ป กล่าวว่า แม้การพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันดิบจะยังไม่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐในระยะนี้ แต่คาดว่าปัญหาดังกล่าวใกล้จะเกิดขึ้นในไม่ช้านี้

อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้แรงหนุนจากรายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐที่ระบุว่า สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนม.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.1% แตะที่ 4.3688 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2551 และมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะขยับขึ้นเพียง 0.8% ตัวเลขสต็อกสินค้าภาคค้าส่งเป็นองค์ประกอบที่สำคัญในการคำนวณจีดีพีและมีอิทธิพลต่อการประเมินวงจรทางธุรกิจและการขยายตัวของเศรษฐกิจ

หุ้นไอบีเอ็ม คอร์ป ปิดบวก 2.2% หลังจากนักวิเคราะห์ของดอยช์ แบงก์ ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าว ขณะที่หุ้นเท็กซัส อินสตรูเมนท์ อิงค์ ปิดร่วง 3.1% หลังจากบริษัทปรับลดคาดการณ์ยอดขายและผลประกอบการในไตรมาสแรกของปีนี้

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, กระทรวงพาณิชย์จะเปิดเผยข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนม.ค. และกระทรวงการคลังเปิดเผยงบประมาณของรัฐบาลกลางเดือนก.พ.

ส่วนวันศุกร์ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนก.พ. และตัวเลขสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนม.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ